ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

อีก 10 ปี เด็ก 175 ล้านคน รับผลกระทบภัยพิบัติ จับมือ สพฐ.ทำคู่มือสอนใน ร.ร.


ข่าวการศึกษา 19 พ.ย. 2559 เวลา 19:25 น. เปิดอ่าน : 10,941 ครั้ง
Advertisement

อีก 10 ปี เด็ก 175 ล้านคน รับผลกระทบภัยพิบัติ จับมือ สพฐ.ทำคู่มือสอนใน ร.ร.

Advertisement

องค์การช่วยเหลือเด็ก ชี้ อีก 10 ปีข้างหน้า เด็ก 175 ล้านคนทั่วโลกได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ เร่งจับมือ สพฐ. จัดทำคู่มือความปลอดภัยจากภัยพิบัติสอนในโรงเรียน หวังเด็กๆ รับมือเอาตัวรอดได้

วันนี้ (18 พ.ย.) ที่โรงแรมคอนยาร์ด โดยแมริออท กรุงเทพมหานคร องค์การช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) องค์การยูนิเซฟ และเครือข่ายโรงเรียนปลอดภัยในประเทศไทย จัดการประชุมสัมมนาเพื่อพิจารณาร่าง “คู่มือความปลอดภัยจากภัยพิบัติในโรงเรียนสำหรับสถานศึกษาและครู” และเสนอแผนการดำเนินการ โดยมีผู้แทนสถานศึกษาและครูอีกจำนวนกว่า 90 คนทั่วทุกภูมิภาค เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

นายทิโมธี เมอเรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการและการประกันคุณภาพโครงการองค์การช่วยเหลือเด็ก กล่าวว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้าเด็กจำนวน 175 ล้านคนทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติซึ่งในจำนวนนี้ก็จะเป็นเด็กๆ ที่อยู่ในประเทศไทยด้วย ที่ผ่านมา เด็กๆ ทุกคนในประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละสภาพพื้นที่ที่เด็กอยู่อาศัยอยู่ ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานขององค์การช่วยเหลือเด็กที่พวกเราได้ทำงานในประเด็นภัยพิบัติกับเด็กมาแล้วทั่วโลก ทำให้เราเกิดข้อเรียนรู้ว่าภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับเด็กสามารถบรรเทาความรุนแรงลงได้ด้วยการฝึกให้โรงเรียนเตรียมการรับมือต่อภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เพราะเมื่อโรงเรียนสามารถวางแผนในการรับมือภัยพิบัติได้ก็จะถ่ายทอดให้เด็กๆ มีความรู้ในการเอาตัวรอดเมื่อเกิดภัยพิบัติได้และจะทำให้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็กนั้นน้อยลงได้ทันทีเช่นกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ องค์การช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทย จึงได้ร่วมกับ สำงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) เครือข่ายโรงเรียนในประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนจากองค์การยูนิเซฟจัดทำหนังสือคู่มือความปลอดภัยจากภัยพิบัติในโรงเรียนสำหรับสถานศึกษาขึ้น

นายทิโมธี กล่าวเพิ่มเติมว่า คู่มือความปลอดภัยจากภัยพิบัติในโรงเรียนสำหรับสถานศึกษาประกอบไปด้วยเนื้อหาที่สำคัญหลายส่วนอาทิส่วนที่หนึ่งแนวคิดหลักเรื่องความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียน การสำรวจความปลอดภัยของอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับเด็กๆ เมื่อเกิดภัยพิบัติ หรือการหามาตรการลดความเสี่ยงของอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้าง ส่วนที่สองแนวคิดเรื่องการจัดการภัยพิบัติในโรงเรียน อาทิ การประเมินความเสี่ยงภัยในโรงเรียนและชุมชน การจัดทำแผนความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียน การฝึกซ้อมแผน และในส่วนสุดท้ายคือการเรียนการสอนเรื่องลดความเสี่ยงภัยพิบัติ โดยมีการจัดทำหลักสูตรเรื่องการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติไว้สอนเด็กๆ ในโรงเรียนด้วย โดยในเบื้องต้นคู่มือเหล่านี้จะถูกนำไปกระจายใช้ในระดับพื้นที่ ในระดับโรงเรียน และในระดับการบริหารของโรงเรียนต่อไป

ขณะที่ ดร. รังสรรค์ วิบูลย์อุปถัมถ์ นักวิชาการการศึกษา องค์การยูนิเซฟ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติเป็นจำนวนมาก และเด็กจำนวนหลายล้านคนก็มีความเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจากการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นดินโคลนถล่ม หรือว่าอัคคีภัย ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีหลายเหตุการณ์ของการเกิดภัยพิบัติที่ทำให้เด็กๆ ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็นผลกระทบของเด็กๆ จากฝั่งทะเลอันดามันจากเหตุการณ์สึนามิ หรือผลกระทบจากเหตุการณ์ในช่วงน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนได้รับผลกระทบกว่า 900 โรงเรียน และมีเด็กที่ได้รับผลกระทบกว่า 1.5 ล้านคน ซึ่งงบประมาณที่จะต้องใช้ในการซ่อมแซมและฟื้นฟูโรงเรียนให้กลับมาสู่สภาพเดิมนั้นก็เป็นเงินในจำนวนที่มาก ดังนั้น เราจึงควรหาแนวทางในการป้องกันและสร้างองค์ความรู้ให้เด็กๆ โรงเรียน หรือครอบครัวสามารถเอาตัวรอดเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นได้ ซึ่งการที่เราเข้ามาสนับสนุนต่อรัฐบาลและเครือข่ายโรงเรียนปลอดภัยให้เกิดทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนเพื่อที่ลดความเสี่ยงการเกิดภัยพิบัติในภาคการศึกษาครั้งนี้ถือเป็นเรื่องราวที่ดีที่จะทำให้เกิดองค์ความรู้และกระบวนการใหม่ๆ ในการช่วยเหลือเด็กๆ ในประเทศไทยอีกหลายล้านคนได้

ด้าน นายธีร์ ภวังคนันท์ ผู้อำนวยการศูนย์ขับเคลื่อนนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพื่อความเป็นธรรมในสังคมของกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในส่วนของการจัดทำหนังสือคู่มือความปลอดภัยจากภัยพิบัติในโรงเรียนสำหรับสถานศึกษานั้น เราสนับสนุนทุกฝ่ายให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเต็มที่ ซึ่งปัจจุบันคู่มือฉบับนี้ได้ถูกนำไปทดลองใช้ในสถานศึกษาหลากหลายแห่งที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติแล้ว โดยความมุ่งหวังในการปรับใช้คู่มือเข้ากับการเรียนการสอนก็เพื่อต้องการให้เด็กๆ ได้มีกระบวนการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งกว่าเดิมให้เด็กๆ สามารถที่จะเผชิญเหตุได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้จับมือทำงานกับองค์กรระหว่างประเทศในการช่วยเหลือเด็กในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งคู่มือฉบับนี้จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่พวกเราหลายฝ่ายได้ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยอุดช่องว่างของการช่วยเหลือเด็กๆ เมื่อเกิดภัยพิบัติได้ นอกจากคู่มือฉบับนี้จะถูกนำไปบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนแล้วความพิเศษของคู่มือ ก็คือ ชุมชนก็สามารถนำคู่มือไปปรับใช้ให้เหมาะกับความเสี่ยงในพื้นที่ของตนเองได้ เพราะในเนื้อหาของคู่มือแล้วเป็นการเปิดกว้างให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมได้

ขณะที่ นางสาวเมธิญา ยะขาว อาจารย์จากโรงเรียนบ้านผาเดื่อ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ กล่าวว่า การที่พวกเราหลายฝ่ายโดยเฉพาะครูเองได้เข้าร่วมอบรมการใช้คู่มือความปลอดภัยจากภัยพิบัติในโรงเรียนสำหรับสถานศึกษา ถือเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงหลายแห่งจะได้เตรียมตัวและมีวิธีปฏิบัติที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันได้ สำหรับโรงเรียนในพื้นที่ของตนนั้นเป็นภูเขา และเสี่ยงต่อการเกิดภัยพิบัติหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติจากดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก แผ่นดินไหว ไฟป่า ภัยหนาว ภัยแล้ง และเด็กๆ ที่เข้ามาเรียนที่โรงเรียนของเราก็จะเป็นเด็กๆ จากกลุ่มชาติพันธุ์ ครั้งแรกที่เราถามเด็กๆ ว่าเขารู้หรือไม่ว่าภัยพิบัติคืออะไรเด็กๆ ไม่สามารถตอบได้ ซึ่งหนึ่งในประเด็นปัญหา คือ เรื่องภาษา ซึ่งจะทำให้เด็กๆ ไม่มีทักษะการเอาตัวรอดเมื่อเกิดภัยพิบัติได้ เมื่อเล็งเห็นถึงปัญหาแล้วตนจึงได้นำคู่มือฉบับนี้ไปแปลเป็นภาษาชาติพันธ์ของเด็กๆ และทำออกมาเป็นสื่อการเรียนการสอนที่เด็กๆ สามารถเข้าใจและรู้จักวิธีในการเอาตัวรอดเมื่อเกิดภัยพิบัติได้ อาทิจัดทำออกมาในรูปแบบหนังสือภาพความรู้เพื่อให้เด็กๆ เรื่องทำไมดินบ้านฉันสไลด์ ทำไมน้ำป่าไหลหลาก เกิดอะไรขึ้นเมื่อมีลมพายุและไฟมา เหตุใดไฟจึงไหม้ป่า ฟ้าผ่าเพราะอะไร ซึ่งเมื่อเด็กๆ ได้อ่านแล้วก็สามารถเข้าใจสาเหตุของการเกิดภัยพิบัติและรู้วิธีในการเอาตัวรอดเมื่อเกิดภัยพิบัติได้

 

 

ขอบคุณที่มาจาก MGR Online 18 พฤศจิกายน 2559

ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด ในราคา ฿368 - ฿999 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6


อีก 10 ปี เด็ก 175 ล้านคน รับผลกระทบภัยพิบัติ จับมือ สพฐ.ทำคู่มือสอนใน ร.ร.อีก10ปีเด็ก175ล้านคนรับผลกระทบภัยพิบัติจับมือสพฐ.ทำคู่มือสอนในร.ร.

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว24/2567 แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System)

ว24/2567 แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการย้าย การประมวลผล และการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ผ่านระบบ TRS (Teacher Rotation System)

เปิดอ่าน 1,559 ☕ 9 ธ.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
โครงการสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ ประจำปี พ.ศ.2568 สมัครได้โดยตรง ภายใน 15 มกราคม 2568
โครงการสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ ประจำปี พ.ศ.2568 สมัครได้โดยตรง ภายใน 15 มกราคม 2568
เปิดอ่าน 180 ☕ 26 ธ.ค. 2567

 การตรวจสอบความซ้ำซ้อนของข้อมูลนักเรียน นักศึกษารายบุคคล ประจำปีการศึกษา 2567 ภาคเรียนที่ 2/2567
การตรวจสอบความซ้ำซ้อนของข้อมูลนักเรียน นักศึกษารายบุคคล ประจำปีการศึกษา 2567 ภาคเรียนที่ 2/2567
เปิดอ่าน 211 ☕ 26 ธ.ค. 2567

พร้อมแล้ว "คุรุสภา" เปิดธีมงานวันครู ครั้งที่ 69 ปี 68 ยึดนโยบายเรียนดี มีความสุข
พร้อมแล้ว "คุรุสภา" เปิดธีมงานวันครู ครั้งที่ 69 ปี 68 ยึดนโยบายเรียนดี มีความสุข
เปิดอ่าน 701 ☕ 24 ธ.ค. 2567

ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
เปิดอ่าน 844 ☕ 22 ธ.ค. 2567

สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 976 ☕ 22 ธ.ค. 2567

เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เปิดอ่าน 842 ☕ 20 ธ.ค. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู
เปิดอ่าน 41,268 ครั้ง

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์
เปิดอ่าน 25,228 ครั้ง

จดหมายลูกโซ่ มีความเป็นมาอย่างไร
จดหมายลูกโซ่ มีความเป็นมาอย่างไร
เปิดอ่าน 19,437 ครั้ง

ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
ฟุตซอล(Futsal): วิธีการคาดโทษและไล่ออก
เปิดอ่าน 26,342 ครั้ง

จริงไหม? ...กินไก่แล้วทำให้ลูกเป็นสาวเร็ว หรือทำให้หน้าอกใหญ่จริงหรือ?
จริงไหม? ...กินไก่แล้วทำให้ลูกเป็นสาวเร็ว หรือทำให้หน้าอกใหญ่จริงหรือ?
เปิดอ่าน 17,225 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ