ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ชมรมรองผอ.สพท.ภาคอีสานเสนอให้สพฐ.แบ่งโครงสร้างการบริหารส่วนราชการในภูมิภาคเป็นจังหวัดและอำเภอ


ข่าวการศึกษา 17 พ.ย. 2559 เวลา 19:17 น. เปิดอ่าน : 15,757 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

ชมรมรองผอ.สพท.ภาคอีสานเสนอให้สพฐ.แบ่งโครงสร้างการบริหารส่วนราชการในภูมิภาคเป็นจังหวัดและอำเภอ

ข้อเสนอ
ชมรมรองผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เรื่อง เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งโครงสร้าง
การบริหารส่วนราชการในภูมิภาคเป็นจังหวัดและอำเภอ

ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษา พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมาตรา 6 กำหนดให้จัดระเบียบราชการกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้

(1) ระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
(2) ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
(3) ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญา

ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้จัดระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา (มาตรา 34) ดังนี้

(1) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(2) สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น

แต่การดำเนินการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตั้งแต่ พ.ศ.2546 เป็นต้นมาไม่สามารถบริหารจัดการให้สำเร็จตามความมุ่งหมายที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ มาตรา 6 ที่กำหนดไว้ว่า“การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข”โดยเฉพาะให้ด้านความรู้จากการทดสอบ O-NET (Ordinary National Educational Test) ซึ่งเป็นการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน โดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ผลปรากฏว่าการทดสอบตั้งแต่ปีการศึกษาที่ผ่านๆมานักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่ผ่านเกณฑ์ทุกสาระวิชาและในการทดสอบปี 2558 ก็ยังพบว่ามีคะแนนอยู่ในเกณฑ์ต่ำทั้ง 5 สาระวิชา ดังนี้ วิชาภาษาไทย คะแนนเฉลี่ย 48.39 สังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม เฉลี่ย 47.64 คะแนน ภาษาอังกฤษ เฉลี่ย 36.61 คะแนน คณิตศาสตร์ เฉลี่ย 41.76 คะแนน วิทยาศาสตร์ เฉลี่ย 41.55 คะแนน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศในอาเซียนแล้วเราจัดอยู่ในลำดับที่ 8 จาก 10 ประเทศ มีเพียงลาวและเมียนมาร์ เท่านั้นที่อยู่ในลำดับที่ต่ำกว่า ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้นแล้วก็ตามแต่ก็ไม่สามารถให้สำเร็จลุล่วงได้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก็ยังตกต่ำและยังพบปัญหาอีกหลายประการ เช่น การอ่านออกเขียนได้ เด็กออกกลางคัน เป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นปัญหาที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเต็มรูปแบบซึ่งหากเมื่อย้อนหลังไปก่อน พ.ศ.2546 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในระดับประถมศึกษาอยู่ในระดับที่น่าพอใจไม่ตกต่ำอย่างเช่นในปัจจุบันและนักเรียนมีคุณธรรม สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า “ความรู้คู่คุณธรรม” ด้วยดีเสมอมา นอกจากนั้นในการบริหารจัดการในเขตพื้นที่การศึกษาที่ผ่านมายังพบปัญหาการบริหารงานบุคคลซึ่งรัฐบาลก็ได้แก้ไขให้จัดตั้งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขึ้นโดยให้มีการบริหารงานในรูปคณะกรรมการ เรียกว่า คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ซึ่งก็สามารถแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลได้อย่างมีธรรมาภิบาล ดังนั้น ชมรมรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงได้เปิดโอกาสให้สมาชิกทุกท่านได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมีความคิดเห็นตรงกันว่าในการบริหารจัดการนั้นชมรมจึงขอเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งโครงสร้างการบริหารส่วนราชการในภูมิภาคออกเป็นจังหวัดและอำเภอสาเหตุที่เสนอให้มีสำนักงานในระดับอำเภอด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.หากมีการจัดตั้งสำนักงานในระดับอำเภอ จะมีหน่วยงานทางการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งอยู่ในพื้นที่ได้ใกล้ชิดกับประชาชนและทำงานเคียงคู่กับนายอำเภอและกระทรวงหลักอื่นเพื่อจะช่วยเหลือกันในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันประกอบกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในปัจจุบันตั้งอยู่ห่างไกลต้องกำกับดูแลสถานศึกษาในสังกัดประมาณกว่า 200 โรง ครอบคลุมพื้นที่ 3-5 อำเภอทำให้การนิเทศติดตามประเมินผลเป็นไปอย่างไม่ทั่วถึง ครูต้องเสียเวลาในการเดินทางไปติดต่อราชการกับเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งตั้งอยู่ในคนละท้องที่อำเภอทำให้ไม่มีเวลาดูแลนักเรียนและต้องสิ้นเปลืองงบประมาณอันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลสัมฤทธิ์การเรียนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านตามที่เป็นข่าว

2. การแบ่งเป็นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในปัจจุบันไม่มีความสอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดินซึ่งแบ่งการบริหารราชการส่วนภูมิภาคออกเป็นจังหวัดและอำเภอจึงทำให้ขาดการประสานงานกับส่วนราชการอื่นที่อยู่ในอำเภอเดียวกันในการระดมสรรพกำลังเพื่อพัฒนาการศึกษาหากมีปัญหาอุปสรรใดจะได้ช่วยเหลือกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอย่างเช่นในอดีตที่ผ่านมา

3.ผู้บริหารการศึกษาในระดับอำเภอสามารถนำนโยบายทั้งของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นเอกภาพในฐานะผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการอย่างเช่น ศึกษาธิการจังหวัดและศึกษาธิการอำเภอในอดีต

ดังนั้น ชมรมจึงเห็นว่าหากได้ดำเนินการตามข้อเสนอนี้โดยให้มีการจัดตั้งหน่วยงานทางการศึกษาระดับอำเภอเพื่อให้สอดรับกับการจัดตั้งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชมรมคาดว่าผลประโยชน์ที่ได้รับจะเกิดขึ้นกับนักเรียนโดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพการศึกษาก็จะได้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนและการบริหารจัดการก็จะเกิดธรรมาภิบาลยิ่งขึ้นต่อไป อนึ่ง ในการเสนอขอจัดตั้งหน่วยงานทางการศึกษาขั้นพื้นฐานในระดับอำเภอในฐานะที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและเป็นผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการในระดับอำเภอในครั้งนี้จะไม่ผูกพันงบประมาณทั้งด้านอาคารสถานที่เนื่องจากเดิมเคยมีอาคารที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอและสำนักงานศึกษาธิการอำเภอเดิมอยู่แล้วนอกจากนั้นอาจจะขอใช้อาคารเรียนโรงเรียนขนาดเล็กที่กำลังจะยุบรวมซึ่งมีอยู่หลายโรงเรียนในด้านบุคลากรก็สามารถเกลี่ยอัตรากำลังมาจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาได้อยู่แล้ว

ชมรมรองผู้อำนวยการสำนักงานพื้นที่การศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
17 พฤศจิกายน 2559

ที่มาข้อมูลจาก ชมรมรอง ผอ.สพทภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
jira.2112@gmail.com

🖼สำหรับคุณครูไว้ใส่เกียรติบัตรสวยและถูก🖼 กรอบป้ายอะคริลิคตั้งโต๊ะ A4 แนวนอน 30x21.5 cm อะคริลิคใส 1 หน้า ทรง L (A4L1P) ในราคา ฿129 คลิกเลย👇👇

https://s.shopee.co.th/1qLFIZVf4t?share_channel_code=6


ชมรมรองผอ.สพท.ภาคอีสานเสนอให้สพฐ.แบ่งโครงสร้างการบริหารส่วนราชการในภูมิภาคเป็นจังหวัดและอำเภอ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 2,308 ☕ 11 ธ.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
ผลการคัดเลือกโรงเรียนวิถีพุทธชั้นนำ รุ่นที่ 15
เปิดอ่าน 305 ☕ 22 ธ.ค. 2567

สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
สพฐ.สำรวจความต้องการขอรับจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ตำแหน่งครูผู้สอนเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 237 ☕ 22 ธ.ค. 2567

เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เกียรติบัตรสำหรับสถานศึกษาที่เข้าร่วมการประกวดคลิปวีดิทัศน์ "Meditation Clip Contest"
เปิดอ่าน 450 ☕ 20 ธ.ค. 2567

ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ของหน่วยงานและผู้บริหารระดับสูง ในสังกัด สพฐ.
ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ของหน่วยงานและผู้บริหารระดับสูง ในสังกัด สพฐ.
เปิดอ่าน 820 ☕ 19 ธ.ค. 2567

ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล "ครูดีในดวงใจ" ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2568
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัล "ครูดีในดวงใจ" ครั้งที่ 22 ประจำปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 1,844 ☕ 19 ธ.ค. 2567

ศธ. เปิดตัวระบบTRS ย้ายครูออนไลน์ทุกกรณี แก้ปัญหาทุจริตโยกย้ายไม่เป็นธรรม
ศธ. เปิดตัวระบบTRS ย้ายครูออนไลน์ทุกกรณี แก้ปัญหาทุจริตโยกย้ายไม่เป็นธรรม
เปิดอ่าน 737 ☕ 17 ธ.ค. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คลิปข่าว สพฐ. พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนดํารงตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา 2564
คลิปข่าว สพฐ. พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนดํารงตําแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา 2564
เปิดอ่าน 17,199 ครั้ง

แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 สพฐ.
แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 สพฐ.
เปิดอ่าน 36,506 ครั้ง

อันตราย! ขวดนม 80% มีสารเคมีอันตราย กระทบระบบสืบพันธุ์
อันตราย! ขวดนม 80% มีสารเคมีอันตราย กระทบระบบสืบพันธุ์
เปิดอ่าน 18,558 ครั้ง

ทักษะอะไรที่นายจ้างยุคเศรษฐกิจ 4.0 ต้องการ ?
ทักษะอะไรที่นายจ้างยุคเศรษฐกิจ 4.0 ต้องการ ?
เปิดอ่าน 26,303 ครั้ง

ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
ดังใหญ่! คลิปล้อ iron man 3 ของแก๊งเฟดเฟ่ ฮาแล้วทั่วโลก
เปิดอ่าน 15,599 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ