ทีโอที หารือกระทรวงดีอี ถึงโครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านร่วมกัน ล่าสุดตัดทิ้งร่างทีโออาร์ โดยใช้หนังสือตามคำสั่งแทน ลั่นพร้อมลุยงานตามสั่งทันทีหากครม.เห็นชอบ ย้ำติดตั้งเสร็จในปี 2560
วันนี้ (16 พ.ย.) นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) ได้หารือร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ถึงโครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทุกหมู่บ้าน โดยกระทรวงดีอี และทีโอที มีความเห็นตรงกันว่า จะไม่ใช้ร่างหลักเกณฑ์การประมูล(ทีโออาร์) แต่จะใช้หนังสือคำสั่งตามแผนงานที่ได้จากกระทรวงดีอีแทน โดยต่อจากนี้ กระทรวงดีอีจะนำเสนอโครงการฯ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขออนุมัติหลักการดำเนินงานล่าสุด จากนั้นทางกระทรวงดีอี จะส่งแผนงานมาให้ทีโอที และทีโอทีจะมีการระบุสเป็กของวัสดุที่ใช้งานไปให้ทางกระทรวงดีอีพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว จึงเริ่มดำเนินงานได้
ทั้งนี้ จะตั้งคณะกรรมขึ้นมา 2 ชุด คือ คณะกรรมการที่ดูในเรื่องกรอบดำเนินการ กับคณะกรรมการที่ดูในเรื่องของการติดตามการดำเนินการ โดยทั้ง 2 ชุด จะมีผู้ทรวงคุณวุฒิจากหน่วยงานรัฐของหน่วยงานด้านกำกับดูและและทรวงดีอี เข้าร่วมด้วย ซึ่งกรอบดำเนินการในเบื้องต้น เมื่อทางกระทรวงดีอีอนุมัติแผนงานและส่งหนังสืออย่างเป็นทางการมาถึงทีโอทีแล้ว คาดจะใช้เวลาราว 45-60 วัน เพื่อจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ต่างๆ ที่ตีตรากระทรวงดีอี จากนั้นคาดจะใช้เวลา 6-8 เดือนในการติดตั้งโครงข่ายเข้าไปยัง 24,700 หมู่บ้าน ครบตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งมั่นใจว่าการติดตั้งโครงข่ายทั้งหมดเสร็จสิ้นได้ภายในปี 2560 ทั้งนี้ หากกระทรวงดีอีต้องการให้การติดตั้งเร็วกว่าเดิม อาจต้องระบุให้การวางโครงข่ายช่วงแรกเป็นการใช้อุปกรณ์ของทีโอทีที่มีอยู่แล้ว
ด้านนายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจขายและบริการลูกค้าองค์กร ทีโอที กล่าวว่า ในส่วนของการเบิกจ่ายงบประมาณนั้น จะใช้วิธีเบิกจ่ายแทนกัน โดยทีโอทีจ่ายไปก่อน แล้วทำเรื่องเบิกเงินกับกระทรวงดีอีตามจริง ซึ่งกรอบงบประมาณที่ได้รับในการดำเนินการปีแรกอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งหากคำนวณเฉพาะการวางโครงข่ายเข้าถึง 24,700 หมู่บ้าน ทางทีโอที คาดว่าจะใช้เงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท เพราะทีโอทีไม่มีการคิดคำนวณในส่วนของกำไรลงไปแต่อย่างใด ส่วนเงินที่เหลือเบื้องต้นนั้น กระทรวงดีอีแจ้งว่า อาจให้ใช้ดำเนินการยกระดับการใช้งานเทคโนโลยี ซึ่งในส่วนของของทีโอทีเองก็มีแผนเสนอในเรื่องการขอใช้งบประมาณที่เหลือมาใช้เป็นค่าบำรุงรักษาด้วยเช่นกัน
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2559