คอลัมน์ เลาะเลียบคลองผดุงฯ: แก้วิกฤตศึกษาชาติ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน
tulacom@gmail.com
เดินหน้าไปได้สวยทีเดียวในการปฏิวัติการสอนของครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กับความพยายามของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เพื่อให้ยังผลสัมฤทธิ์ถึงตัวนักเรียน
หลังจากประสบผลสำเร็จในกลุ่มโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ ในการอบรมครูโรงเรียนตราดอกบัวให้จัดการสอนแบบ Active Learning กระทั่งนักเรียนในสังกัดสามารถสอบ O-NET ปีพ.ศ.2559 ได้คะแนนเต็ม 100% จาก 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ มากถึง 650 คน เรียกความสนใจจากทุกฝ่ายมิใช่น้อย
ล่าสุดมีรายงานมาถึงคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบการจัดการศึกษา สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ที่มีพล.อ.พอพล มณีรินทร์ เป็นประธานอนุกรรมาธิการ ได้เข้ามาร่วมวงกับสพฐ.จัดทำโครงการเพื่อศึกษาพัฒนาการฝึกอบรมครูในการปรับการสอนเป็นแบบ Active Learning ดังกล่าวโดยลงไปจัดอบรมครู 4 โรง นำร่องใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ร.ร.สามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย ร.ร.หาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์ กุลกันยา จ.สงขลา ร.ร.แก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น และ ร.ร.ระยองวิทยาคม จ.ระยอง
ทีมวิทยากรนำโดย ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหารสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) และเป็นคณะอนุกรรมาธิการชุดนี้ ใช้เวลารวม 2 วัน อบรมครูผู้สอนทั้ง 8 กลุ่มสาระ ปฏิบัติการสอนรูปแบบ Active Learning ตามแนว Backward Design โดยใช้กระบวนการ GPAS 5 Steps
แจ่มชัดจากเอกสารสรุปผล ครูผู้สอนทั้ง 4 แห่งเห็นพ้องตรงกันว่ารูปแบบการสอนตามแนวทางดังกล่าวช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ส่งผลต่อการเพิ่มคะแนน O-NET และระดับผลสัมฤทธิ์การเรียนดีของนักเรียนได้จริงๆ ผู้เรียนสามารถสร้างสรรค์คิดค้นนวัตกรรมชิ้นงานเองได้ทั้งในและนอกเวลาเรียน
ที่สำคัญ ครูที่เข้าอบรมทุกคนรับว่าเป็นกระบวนการสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตัวผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางอิงมาตรฐานสากลในศตวรรษ 21 ที่ระบุไว้
แว่วว่าทาง ศธ.เตรียมขยายผลยกระดับการนำร่องดังกล่าว ลงในระดับเขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมและมัธยมศึกษาใน 4 ภูมิภาค ประมาณเดือนธ.ค.59 นี้ ถ้าเป็นจริงดังราคาที่คุย
การศึกษาของประเทศน่าจะเดินมาถูกทาง หลังตกอยู่ในหลุมดำมานานเกือบ 2 ทศวรรษ
ขอบคุณที่มาจาก ข่าวสด วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559