โลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความเป็นอยู่ การศึกษา เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ในความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็ทำให้การเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ในยุคปัจจุบันมีการผลักดันให้ลูกแข่งขันเพื่อที่จะเป็น “ดาว” ในทุกๆ ด้านดังที่กล่าวมานั้นมากยิ่งขึ้น
นอกจากจะทำให้เด็กและพ่อแม่เกิดความเครียดแล้วยังทำให้เกิดปัญหาการแก่งแย่งชิงดีกันมากขึ้นในสังคมอีกด้วย โดยที่แท้จริงแล้วการที่จะเลี้ยงลูกให้เป็น “ดาว” ที่ได้ผลดีนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังสอนให้ลูกเป็น “ดิน” หรือเป็นคนที่ติดดินเสียก่อน ดังนี้
1. สอนลูกให้เป็นคนรู้จักทำงาน คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่มักให้ลูกเรียนหนังสือเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่สอนให้ลูกทำงานบ้านเลย จึงทำให้เด็กๆสมัยนี้ส่วนใหญ่มักเป็นคนที่ทำงานไม่เป็นและเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ การสอนให้ลูกช่วยเหลือทำงานบ้านตามความสามารถของวัย เช่น กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ พับเสื้อผ้า เป็นการสร้างนิสัยให้ลูกเป็นคนมีความรับผิดชอบและเป็นคนขยันสู้งานต่อไปในอนาคต
2. สอนลูกให้เป็นคนรู้จักพอเพียง คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกให้เป็นคนรู้จักใช้สิ่งของและทรัพยากรอย่างประหยัด เช่น เข้มงวดให้ลูกปิดไฟและก๊อกน้ำที่ไม่จำเป็นทุกครั้ง อีกทั้งสอนลูกให้เห็นคุณค่าของอาหาร โดยที่ติดนิสัยไม่เป็นคนกินทิ้งกินขว้างและรู้จักตักอาหารอย่างพอดีกับความต้องการของตนทุกครั้ง
3. สอนลูกให้รู้จักการใช้เงิน คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักการเก็บออมเพื่อสะสมทุนไว้สำหรับการใช้จ่ายในอนาคต โดยเน้นให้ลูกใช้เงินเท่าที่มีอย่าใช้จ่ายอย่างเกินตัว อีกทั้งเน้นย้ำและเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกในการที่ไม่ใช้จ่ายไปกับสิ่งที่ฟุ่มเฟือยหรูหราเกินฐานะและความจำเป็นในชีวิต โดยที่ไม่ต้องเป็นคนอยากได้อยากมีเหมือนกับใครๆ จนทำให้ตนเองต้องไปดิ้นรนจนมีภาระหนี้สินมากมาย
4. สอนลูกให้รู้จักหน้าที่ของตน โดยให้ลูกเห็นความสำคัญของการเรียน มีความรับผิดชอบและใฝ่รู้ในการเรียน โดยคุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนและจัดตารางเวลาสำหรับการเรียนของลูกอย่างเหมาะสมกับวัยอย่างที่ไม่มากหรือไม่น้อยเกินไป การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญ เราจะเห็นได้ว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนใหญ่มีเบื้องหลังมาจากการเป็นคนที่รักการเรียนรู้และมีการศึกษาที่ดี
5. สอนลูกให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกให้เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ให้เกียรติผู้อื่น อ่อนโยน ไม่หยาบกระด้าง ไม่เย่อหยิ่งจองหอง เพราะคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนไปอยู่ในสังคมใดก็มักจะเป็นที่รักใคร่เอ็นดู ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกให้เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนทั้งทางกายวาจาใจอยู่เสมอ
6. สอนลูกให้เป็นคนไม่เห็นแก่ตัว คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกให้เป็นคนที่มีจิตใจเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักการเสียสละ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น รักในการที่จะช่วยเหลือและให้กับผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เช่น สอนให้ลูกดูแลสัตว์เลี้ยงและต้นไม้ สอนให้ลูกช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส อีกทั้งปลูกฝังให้ลูกเป็นคนที่มีจิตอาสาในการช่วยเหลือและเสียสละเวลา สติปัญญา และแรงกาย ให้แก่สาธารณประโยชน์ด้วยความสมัครใจ
จะเห็นได้ว่าการที่สอนลูกให้เป็น “ดาว” นั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มต้นสอนให้ลูกเป็นคนทีรักการทำงาน เป็นคนที่รู้จักความพอเพียง เป็นคนที่รู้จักการอดออมและไม่ฟุ้งเฟ้อเกินตัว เป็นคนรู้จักหน้าที่ของตน เป็นคนทีมีจิตใจเมตตาไม่เห็นแก่ตัว อีกทั้งไม่เป็นคนหยาบกระด้างจนใครๆ ต่างเบือนหน้าหนี เพราะความหมายของ “การเป็นดาวที่แท้จริง” นั้น คือการส่องสว่างที่มาจากคุณงามความดีที่อยู่ภายในตนและฉายแสงออกไปสู่ผู้คนและสังคมรอบข้างนั่นเอง
ขอบคุณที่มาจาก MGR Online