สกสค.เดินหน้าตามนโยบาย "ดาว์พงษ์" ตามเชือดทุกคนที่พัวพันกรณีทุจริตในสกสค. เผยถึงคิวผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวะทางภาคเหนือที่ร่วมเป็นบอร์ดบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯในโครงการเงินกู้ชพค.
วันนี้(10 พ.ย.) ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตามทึ่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้เดินหน้าตรวจสอบและดำเนินการกับอดีตผู้บริหาร สกสค. เจ้าหน้าที่ และกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.อีก 22 คน ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีการทุจริตซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินบริษัท บิลเลียน อินโนเวเท็ดกรุ๊ป จำกัด มูลค่า 2,500 ล้านบาทนั้น ทราบว่าคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยชุดที่มีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ. เป็นประธาน ได้สอบสวนวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่ สกสค.จำนวน 7 คน มีความคืบหน้าไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว และล่าสุดคณะกรรมการสอบสวนฯได้เสนอขอขยายขอบเขตอำนาจการสอบสวนมากขึ้นเพื่อให้การสอบสวนครอบคลุมและสมบูรณ์ ซึ่งตนพิจารณาแล้วและเห็นชอบที่จะให้ดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป
ดร.พิษณุ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีที่ รมว.ศธ.ต้องการให้มีการสอบสวนทางวินัยกับข้าราชการที่เป็นกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯ ซึ่งเป็นข้าราชการจากหลายหน่วยงานในองค์กรหลักของศธ.ด้วยนั้น เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนฯชุดที่นายอรรถพล เป็นประธาน มีขอบเขตการสอบสวนเฉพาะเจ้าหน้าที่ สกสค.เท่านั้น แต่หาก รมว.ศธ.ต้องการให้สอบสวนข้าราชการและบุคคลอื่นๆ นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ สกสค.ด้วย พล.อ.ดาว์พงษ์ สามารถออกคำสั่งให้คณะกรรมการสอบสวนฯชุดนี้สามารถดำเนินการสอบสวนได้ทันที เนื่องจากหากจะให้ผู้บริหารของแต่ละหน่วยงานแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเองอาจจะเกิดความล่าช้า เพราะมีข้าราชการที่เกี่ยวข้องจากหลากหลายหน่วยงาน
ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบรายชื่อคณะกรรมการบริหารกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษฯนั้น นอกจากข้าราชการในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 4 คน และบุคคลภายนอกสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 1 คน ที่ได้แจ้งให้ต้นสังกัดดำเนินการสอบสวนวินัยร้ายแรงและดำเนินการทางอาญาไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีข้าราชการ 1 คน ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวะทางภาคเหนือที่ร่วมเป็นกรรมการบริหารกองทุนฯด้วย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้แจ้งให้ สอศ.ดำเนินการทางวินัยแต่อย่างใด ดังนั้นจะเสนอดร.พิษณุ เพื่อแจ้งเรื่องให้ สอศ.ดำเนินการกับข้าราชการรายดังกล่าวต่อไป.
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2559