"สุเทพ"เผย สวทอ ชี้ปัญหาจัดการอาชีวะเอกชน แนะรัฐ รีไฟแนนซ์หนี้ อุดหนุนเงินรายหัวปวช-เงินเดือนครู100%
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับสมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี(สวทอ) เพื่อแก้ไขปัญหาสถานศึกษาอาชีวศึกษาขนาดเล็ก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทาง สวทอ ได้ชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหาของสถานศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน โดยเฉพาะอาชีวศึกษาขนาดเล็ก ว่า ได้รับผลกระทบจากนโยบายการรับนักเรียน นักศึกษา ของสถานศึกษาอาชีวศึกษาของรัฐ จึงได้เสนอให้สถานศึกษาของรัฐจำกัดการรับนักเรียน โดยงดการขยายจำนวนรับและหยุดการขยายสถานศึกษาใหม่ รวมถึงขยายสาขาหรือห้องเรียน ยกเว้นสาขาที่ขาดแคลนและเอกชนไม่สามารถจัดได้ และสนับสนุนให้สถานศึกษาของรัฐขนาดใหญ่มุ่งผลิตระดับปริญญา แล้วให้สถานศึกษาขนาดเล็กของรัฐและเอกชนผลิตระดับประกาศนียบัตร
"ในที่ประชุมได้มีข้อตกลงว่า ปีการศึกษา 2560 จะมอบให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) คณะกรรมการอาชีวศึกษาจังหวัด(อศจ.)และสถานศึกษาทั้งรัฐและเอกชนในจังหวัด จัดทำแผนการรับนักเรียน นักศึกษาร่วมกัน และรายงานให้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ทราบเพื่อประกาศเป็นแผนการรับนักเรียนนักศึกษาในภาพรวมของ สอศ.ต่อไป"ดร.สุเทพ กล่าว
เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อไปว่า ปัญหาต่อมาคือการที่จำนวนนักเรียน นักศึกษาลดลง ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ รวมถึงการจ้างครูและบุคลากรของสถานศึกษาเอกชน จึงมีข้อเสนอให้รัฐช่วยสนับสนุนกองทุนกู้ยืม อัตราดอกเบี้ยต่ำโดยมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 5 ปี ให้มีการทำรีไฟแนนซ์เพื่อแก้ปัญหาภาระหนี้สิน รวมถึงช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 100% และอุดหนุนเงินเดือนครูผู้สอน 100% ด้วย ซึ่งประเด็นนี้ตนได้รับที่จะไปหารือกับ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) และดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ.ก่อน
ดร.สุเทพ กล่าวอีกว่า อีกปัญหาคือ ไม่มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนด้านการจัดการศึกษาเอกชนที่ชัดเจน จึงเสนอให้รัฐกำหนดมาตรการส่งเสริมการลงทุนและคุ้มครองการลงทุนเพื่อการจัดการศึกษาเอกชนที่ชัดเจน เช่น ไม่เก็บภาษีนำเข้าครุภัณฑ์ทางการศึกษา สนับสนุนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)แก่ผู้เรียนทุกคนที่ต้องการกู้ และกำหนดสัดส่วนผู้เรียน ม.ปลายและสายอาชีพที่ชัดเจน รวมถึงแบ่งสัดส่วนผู้เรียนระหว่างอาชีวศึกษารัฐและอาชีวศึกษาเอกชนให้ชัดเจนด้วย
"ปัญหานี้ที่ประชุมเห็นควรเสนอให้รัฐตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนด้านการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน และกำหนดสัดส่วนผู้เรียนระหว่างสายสามัญกับสายอาชีพ โดยมีเป้าหมายที่ 50:50 แต่ที่ประชุมก็ยอมรับว่าอาจทำได้ยาก ผมจึงให้ความเห็นว่าจะพยายามคงสัดส่วนเท่าเดิม คือ 62:38 ไว้ให้ได้”ดร.สุเทพ กล่าว
ดร.สุเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสิทธิการเรียนฟรี ระหว่างสถานศึกษาเอกชนกับรัฐบาล รวมถึงเงินเดือน ค่าตอบแทน สิทธิสวัสดิการของครูและบุคลากรในสถานศึกษาเอกชน ซึ่งที่ประชุมเห็นควรให้รัฐกำหนดมาตรการดูแลสถานศึกษาเอกชนให้มากขึ้น
ขอบคุณที่มาจาก คม ชัด ลึก วันที่ 9 พ.ย.2559