บอร์ด ช.พ.ค.ไฟเขียว เปิดโครงการสำรองจ่ายเงินสงเคราะห์รายศพให้แก่สมาชิก ช.พ.ค.-ช.พ.ส. ให้สมาชิกที่ส่งเงินต่อเนื่อง 40 ปี มีอายุ 75 ปีขึ้นไป บนเงื่อนไขทายาทต้องเซ็นยินยอมหักเงินค่าศพคืนกองทุนหลังเสียชีวิต
วันนี้ (7 พ.ย.) รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะผู้ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) มีมติให้สำนักงาน ช.พ.ค.ดำเนินการเรื่องการสำรองจ่ายเงินสงเคราะห์รายศพให้แก่สมาชิก ช.พ.ค.และสมาชิกกองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนสมาชิกคุรุสภาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ให้แก่สมาชิกที่มีประวัติการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ผู้ที่ส่งเงินสงเคราะห์ต่อเนื่องมาแล้ว 40 ปี มีจำนวน 70,110 ราย และ สมาชิกที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป จำนวน 5,094 ราย โดย สกสค.จะตั้งกองทุนสำรองจ่ายเงินสงเคราะห์รายศพให้แก่สมาชิกเหล่านี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 75 ล้านบาทต่อเดือน โดยสมาชิกที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯจะต้องมีการเซ็นยินยอมจากทายาทด้วย เพราะเมื่อสมาชิกเสียชีวิตและทายาทได้รับเงินสงเคราะห์รายศพแล้ว จะถูกหักเงินสำรองจ่ายคืนแก่กองทุน ตามจำนวนที่ สกสค.ได้สำรองจ่ายไป
"การตั้งกองทุนสำรองจ่ายดังกล่าวเพื่อลดรายจ่ายข้าราชการบำนาญที่มีรายได้น้อย หรือ สมาชิกมีความจำเป็นใช้จ่ายเงินในการดำรงชีพ และลดโอกาสขาดส่งเงิน ช.พ.ค.และ ช.พ.ส. ต่อเนื่อง3 เดือนจนถูกตัดสิทธิ์ ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่ามีสมาชิก ช.พ.ค.และ ช.พ.ส.หลายรายได้รับเงินบำนาญต่ำกว่า 10,000 บาท ซึ่งการชำระเงินค่าสมาชิกนั้นเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท นอกจากนี้ยังพบว่า สมาชิกที่เป็นผู้สูงอายุบางคนหลงลืมไม่ชำระค่าสมาชิกจึงทำให้ถูกตัดสิทธิ์ ซึ่งถือว่าไม่ยุติธรรมเพราะสมาชิกกลุ่มนี้ก็ได้ส่งเงินมาตลอด ดังนั้น สกสค.ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลสวัสดิการครูจึงมีความเป็นห่วง จึงได้ดำเนินการโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อดูแลสมาชิก” รองปลัด ศธ.กล่าวและว่า นอกจากนี้ สกสค.ได้เตรียมที่จะดำเนินการช่วยเหลือครูที่มีอายุเกิน 35 ปี แต่ต้องการเป็นสมาชิก ช.พ.ค.ด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและแนวทางช่วยเหลือต่อไป.
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2559