นายอดิศร เนาวนนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) นครราชสีมา อดีตประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เปิดเผยกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปี 2559 และมอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปกำหนดตัวชี้วัดการทำงาน ซึ่งในส่วนของผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้ง จะต้องเข้ารับการประเมินในระยะเวลา 1 ปี หากประเมินผลการปฏิบัติงานแล้วไม่ผ่าน จะต้องถูกย้ายไปอยู่ในส่วนของอัตรากำลังทดแทน ว่า โดยหลักการเห็นด้วยกับการประเมินการทำงานผู้อำนวยการสถานศึกษา แต่อยากให้ปรับจากประเมินการทำงานในระยะ 1 ปีแรก มาเป็นประเมินในทุกๆ 4 ปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลการประเมินสะท้อนคุณภาพการจัดการศึกษาอย่างแท้จริง ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องกำหนดตัวชี้วัดการประเมินให้สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน และการจัดการเรียนการสอน โดยให้มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ อาทิ คะแนนทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลัดสูตร ฯลฯ เพื่อป้องกันระบบการใช้เส้นสาย หรือการกลั่นแกล้ง เพราะมีผลงานเชิงประจักษ์ให้ตรวจสอบ
นายอดิศรกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ส่วนตัวยังเห็นว่าระบบการคัดเลือกผู้อำนวยการสถานศึกษา ไม่ควรมีระบบเดียว หรือให้มีการเลื่อนไหลจากผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดเล็ก ไปขนาดกลาง และขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ควรเปิดช่องทางให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอน สามารถเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาได้ด้วย เพราะผู้ที่ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่ จะต้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งผู้บริหารจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องหลักสูตรการเรียนการสอน การจัดการเรียนการสอน และจะต้องลงมือปฏิบัติได้จริงด้วย ไม่เช่นนั้นก็ไม่ควรมาเป็นผู้บริหารโรงเรียน ขณะเดียวกันอยากเสนอให้ปรับวิธีการเข้าสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่ ให้ใช้วิธีการสรรหาโดยกรรมการสถานศึกษาเป็นผู้กำหนดคุณสมบัติ คัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมเข้ารับตำแหน่งในลักษณะเดียวกันการสรรหาอธิการบดีของมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้ได้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาเป็นผู้บริหารสถานศึกษาอย่างแท้จริง ไม่ใช่ใช้วิธีการเลื่อนไหลตามขนาดโรงเรียน
“ภาพรวมผมเห็นด้วยกับการปรับวิธีการคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียนใหม่ เพื่อป้องกันระบบการใช้เส้นสาย เล่นพรรคเล่นพวก เพื่อให้ได้ไปอยู่โรงเรียนขนาดใหญ่ แต่ต้องระวังว่าหากปล่อยให้เข้าสู่ตำแหน่งโดยไล่ตามขนาดของโรงเรียนไปเรื่อยๆ ต่อไปจะทำให้โรงเรียนไม่ได้คนเก่งมาเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา” นายอดิศรกล่าว
ขอบคุณที่มาจาก มติชน (กรอบบ่าย) 4 พ.ย. 59