นายชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน หรือ พีเอ ว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำลังเร่งจัดทำร่างหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะทุกระดับทั้งชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เชี่ยวชาญและเชี่ยวชาญพิเศษ โดยมีแนวทางเบื้องต้นว่า การประเมินจะมุ่งวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยครูต้องทำข้อตกลง 2 ส่วนกับผู้อำนวยการ(ผอ.)โรงเรียนทุกปี
รองปลัด ศธ. กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าว ได้แก่ 1.ข้อตกลงตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งของแต่ละวิทยฐานะว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น ครูต้องมีแผนการสอน สื่อการสอน เอกสารการสอน เป็นต้น และ 2.การปฏิบัติงานตามนโยบาย อาทิ นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ครูได้รับมอบหมายให้ทำกิจกรรมลูกเสือก็ต้องทำให้เต็มที่ เป็นต้น
"สำหรับการประเมินเพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะจะมีมาตรฐานตำแหน่งกำหนดไว้ เช่น ระดับชำนาญการ ต้องทำผลงานต่อเนื่องไปจนครบ 4 ปี ถ้าจะเลื่อนขึ้นสู่ระดับชำนาญการพิเศษ ต้องทำข้อตกลงใหม่กับผอ.โรงเรียนในขั้นที่สูงขึ้น อาทิ ระดับชำนาญการกำหนดว่าต้องทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อจะเลื่อนเป็นชำนาญการพิเศษ ก็ต้องเพิ่มเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น ส่วนการประเมินคงสภาพวิทยฐานะตามมาตรา 55 พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 จะประเมินโดยดูว่าครูได้ทำตามที่ตกลงไว้และสม่ำเสมอหรือไม่ หากต่ำกว่าเกณฑ์ ผอ.โรงเรียนต้องรู้ว่าครูบกพร่องในเรื่องใดแล้วหาวิธีพัฒนา ขณะที่ครูเองก็ต้องหาวิธีที่จะพัฒนาให้เด็กให้ดีขึ้น" รองปลัด ศธ.กล่าว
ขอบคุณที่มาจาก ข่าวสด วันที่ 3 พ.ย.2559