"พิษณุ"เผยอดีตผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการแห่สมัครชิงเก้าอี้ ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพฯ "ดาว์พงษ์" สั่งต้องทดลองงาน 6 เดือน ไม่ผ่านปลด
วันนี้(1พ.ย.) ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน สกสค.ได้ประกาศรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร แทนผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งจะครบวาระในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ จำนวน 71 จังหวัด โดยปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น จากข้อมูลพบว่ามีผู้ให้ความสนใจมาสมัครเข้ารับการสรรหารวมทั้งสิ้น 457 คนโดยมีแค่ 5 จังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยสุด 2 ราย จังหวัดที่มีผู้มาสมัครมากสุดมี 18 คน เท่าที่เห็นรายชื่อพบว่ามีทั้งอดีตผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ที่เกษียณอายุราขการไปแล้ว และยังรับราชการอยู่จำนวนหลายราย สูงสุดระดับรองเลขาธิการขององค์กรหลักใน ศธ.ผู้ตรวจราชการ ศธ. รวมไปถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ
"ผมเชื่อว่าผู้สมัครต่างก็มองว่าตำแหน่ง ผอ.สกสค.จังหวัด/กรุงเทพฯนั้นมีความสำคัญมาก เพราะถือเป็นหน่วยงานด่านหน้าของ สกสค.ที่จะให้บริการกับครูและบุคลากรทางการศึกษา และประชาชนทั่วไป ดังนั้นจึงมีผู้ใหญ่ของ ศธ.มาสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการชุดที่ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ.จะได้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา จำนวน 71 ชุด เพื่อทำการพิจารณาและคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมให้เหลือจังหวัดละ 2 คน และเสนอให้คณะกรรมการคณะที่ 3 ซึ่งเป็นคณะกรรมการกลางของ สกสค.ที่มีผมเป็นประธาน จะพิจารณากลั่นกรองผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดเพื่อเสนอให้บอร์ด สกสค. ซึ่งมีพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานได้พิจารณาแต่งตั้งต่อไป" ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าว
ดร.พิษณุ กล่าวอีกว่า หลังการแต่งตั้งจะผู้ได้รับการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการอบรมเพื่อเติมเต็มทักษะความรู้ในบางเรื่องที่มีความจำเป็นก่อนประมาณ 2สัปดาห์ อาทิ ความรู้พื้นฐานในการปฎิบัติงานในตำแหน่ง ความสามารถด้านไอซีทีที่มีความจำเป็นในการปฎิบัติงาน เป็นต้น นอกจากนี้ รมว.ศธ.ยังกำชับว่าผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจะต้องมีการทดลองงานเป็นเวลา 6 เดือนด้วย หากไม่ผ่านการประเมินจะต้องพ้นจาการปฎิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจะต้องถูกประเมินความสามารถทุกปี หากผลงานไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดจะต้องพ้นสภาพเช่นกัน ที่สำคัญไปกว่านั้นหากมีการตรวจสอบพบว่าผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งขาดคุณสมบัติ หรือปกปิดสิ่งต้องห้ามในภายหลังจากที่แต่งตั้งไปแล้ว สกสค.สามารถเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งได้ทันที
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2559