ทปอ.มีมติยันขอแยกสกอ.ออกจากกระทรวง ชี้เพื่อความคล่องตัวบริหารจัดการ 9พ.ย.เล็งพบรมว.ศธ. ชี้แจงเหตุผล และเสนอมติปรับระบบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยปี2561ย้าดำเนินการตามนโยบาย”ดาว์พงษ์”
วันนี้( 31 ต.ค.) ศ.นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล(มม.) และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ทปอ. ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้(มจ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้หารือกรณีที่พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ มอบโจทย์ให้มาวิเคราะห์ว่า เมื่อแยกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ออกจากกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)แล้ว จะทำให้คุณภาพบัณฑิตดีขึ้น และแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาได้อย่างไร ซึ่ง ทปอ.ยืนยันมติเดิมว่า สกอ.จำเป็นจะต้องแยกออกจาก ศธ. เพราะการรวมกับ ศธ.ทำให้เกิดปัญหาความไม่คล่องตัวและปัญหาอื่น ๆ หลายด้าน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้มหาวิทยาลัยเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 โดยให้มหาวิทยาลัยทำงานวิจัย และสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาประเทศ ดังนั้นต้องแยกสกอ.ออกจาก ศธ. เพื่อมหาวิทยาลัยจะทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น ซึ่งในวันที่ 9 พ.ย.นี้ ทปอ.จะเข้าพบ รมว.ศธ. เพื่อชี้แจงเหตุผลในการขอแยก สกอ.ออกจาก ศธ.
ศ.นพ.อุดม กล่าวต่อไป นอกจากนี้ ทปอ.จะรายงานมติ ทปอ.เกี่ยวกับการปรับระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาประจำปีการศึกษา 2561 โดยยึดนโยบายที่ รมว.ศธ.ต้องการ คือให้เด็กอยู่ในห้องเรียนจนจบการศึกษา ไม่เกิดปัญหาการวิ่งรอกสอบ ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายกับผู้ปกครอง ให้เด็กทุกคนมีสิทธิเลือกเรียนตามที่ต้องการ ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยก็มีสิทธิจะเลือกเด็กได้เช่นกัน ซึ่งสรุประบบการคัดเลือกใหม่ จะมี 3 ส่วน คือ 1.การรับเด็กในระบบโควตาโดยไม่สอบ 2.ระบบการคัดเลือกใช้ข้อสอบกลาง มีระบบเคลียร์ริงเฮาส์ 2 ครั้ง และ 3.ระบบรับตรงที่เปิดให้มหาวิทยาลัยที่รับเด็กได้ไม่ตามจำนวนสามารถเปิดรับตรงได้แต่ต้องไม่มีการไปจัดสอบเอง
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2559