ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์


บทความการศึกษา 18 ต.ค. 2559 เวลา 17:38 น. เปิดอ่าน : 11,003 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์

ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ
โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์

ความเจริญก้าวหน้าขององค์กร ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ระดับประเทศ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายประการ ที่สำคัญคือบุคลากรที่อยู่ในองค์กรนั้น

ประชาชนของประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย เป็นผู้ที่มีศักยภาพในระดับสูง มีความรู้ มีวินัย และมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตน ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่ผู้บริหารประเทศเหล่านั้นให้ความสำคัญกับการศึกษา ดำเนินการปรับปรุง ปฏิรูป การบริหารการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการบริหารประเทศอย่างดีเยี่ยม ทำให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้าอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและมีการปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่องตลอดมา แต่ก็ยังไม่ทันกับความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ ของโลก จำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปการศึกษาในทุกระดับ ตั้งแต่อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย (สายสามัญศึกษา และสายวิชาชีพ) และอุดมศึกษา (สายสามัญศึกษาและสายวิชาชีพ) ในระดับต่ำกว่าปริญญา ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และบัณฑิตศึกษาหรือเทียบเท่า และถ้าจะให้สมบูรณ์ควรรวมถึงการให้การศึกษากับประชาชนไปจนตลอดชีวิต

เป็นที่น่ายินดีที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายประเทศไทย 4.0 ถือได้ว่าเป็นวิสัยทัศน์เชิงรุกที่ดี และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่กำลังจะมีการประกาศใช้ ได้กำหนดให้มีการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ที่จะต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ โดยหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว จะต้องดำเนินการปฏิรูปภายในหนึ่งปี และจะต้องดำเนินการให้สัมฤทธิ์ผลภายในห้าปี รวมทั้งกำหนดให้จัดทำข้อเสนอแนะและร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ต่อเนื่องไปในอนาคต รัฐบาลได้เร่งดำเนินการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี แบ่งเป็น 4 ช่วง ช่วงละ 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2560 จะดำเนินการปฏิรูปด้านต่างๆ รวม 10 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจ การเกษตร ศักยภาพคนไทย ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การป้องกันการทุจริต ทรัพยากรธรรมชาติ โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม รายได้ประชาชน นวัตกรรมและการวิจัย และระบบโทรคมนาคม

นอกเหนือไปจากการเสนอนโยบาย วิสัยทัศน์ และวางแผนในอนาคต รัฐบาลได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะดำเนินการปรับปรุงการศึกษาของประเทศอย่างจริงจัง โดยเห็นได้จากงบประมาณปี 2560 ที่จัดสรรให้กระทรวงศึกษาธิการ 519,292.5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 19% จากงบประมาณทั้งประเทศ จำนวน 2,733,000 ล้านบาท นับว่าเป็นกระทรวงที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด รวมถึงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญของระบบการศึกษาก็ได้รับงบประมาณจำนวน 11,868.7 ล้านบาท

มีข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ มากมายจากทุกภาคส่วนที่มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการบริหารการศึกษาของประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ส่วน คือ หลักสูตร ผู้เรียน และผู้สอน โดยผู้สอนน่าจะเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด จึงขอเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนอย่างเร็วที่สุด ในเรื่องค่าตอบแทนและการบริหารงานบุคคลในส่วนของครูและอาจารย์

คงจะเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่าการเลือกสาขาวิชาในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนนั้น ความชอบและความถนัดเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือค่าตอบแทนที่จะได้รับ เมื่อสำเร็จการศึกษาไปประกอบอาชีพ ประเทศของเราจึงมีแพทย์ วิศวกร ที่มีความสามารถระดับนานาชาติมากมาย การเพิ่มค่าตอบแทนให้บุคลากรของรัฐกลุ่มที่เป็นครูและอาจารย์ จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นความสนใจของนักเรียนที่มีผลการเรียนดี (รวมถึงผู้ปกครอง) และควรเพิ่มให้อยู่ในระดับเดียวกัน (หรือมากกว่า) กับบุคลากรของรัฐวิสาหกิจหรือบริษัทเอกชน

เมื่อให้ค่าตอบแทนครูและอาจารย์ในระดับสูงสุด (เมื่อเทียบกับสาขาอาชีพอื่นๆ) แล้ว ควรที่จะมีเส้นทางการประกอบอาชีพที่ชัดเจน นั่นคือจะต้องปรับเปลี่ยนการบริหารงานบุคคล ตั้งแต่การรับเข้า การพัฒนา การเลื่อนขั้น จนถึงเกษียณอายุราชการ ตัวอย่างเช่น ควรได้ทำงานในภูมิลำเนาเดิมของตน (ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องการสร้างบ้านพัก) เมื่อได้รับการเลื่อนขั้นก็ไม่จำเป็นต้องย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น เป็นต้น

การปรับเปลี่ยนในสองประเด็นที่เสนอนี้ จะทำให้ประเทศของเราได้ครูและอาจารย์รุ่นใหม่ ซึ่งอาจเรียกได้ว่า “ครูและอาจารย์รุ่น 4.0” มาร่วมในการปฏิรูปการศึกษาไทย เพื่อเข้าสู่ “การศึกษาไทย 4.0” เมื่อปฏิรูปการศึกษาไทยได้สำเร็จ (ซึ่งจะต้องใช้เวลาพอสมควร) ประชาชนในประเทศของเราจะเป็นประชาชนที่มีศักยภาพ มีวินัย และมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตน เช่นเดียวกับพลเมืองของประเทศที่พัฒนาแล้ว และการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ให้เป็น ประเทศไทย 4.0” ก็จะสามารถดำเนินการให้สำเร็จได้โดยใช้เวลาที่ไม่นานเกินไปตามที่ทุกคนมุ่งหวัง

รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์

 

ขอบคุณที่มาจาก มติชนออนไลน์ วันที่: 18 ต.ค. 59

 


ปฏิรูปการศึกษา คือ รากฐานของการปฏิรูปประเทศ โดย รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ปฏิรูปการศึกษาคือรากฐานของการปฏิรูปประเทศโดยรศ.วุฒิชัยกปิลกาญจน์

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ปัญหาศึกษาไทยใหญ่กว่าฟรี12 หรือ15 ปี

ปัญหาศึกษาไทยใหญ่กว่าฟรี12 หรือ15 ปี

เปิดอ่าน 13,370 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน
เกาะติดการปิดเปิดเทอม มหาวิทยาลัยไทยตามอาเซียน
เปิดอ่าน 7,410 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้ไม่มีใบประกอบอาชีพครูมีสิทธิสอบครูได้ : โดย รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ
ทำไมจึงไม่ควรให้ผู้ไม่มีใบประกอบอาชีพครูมีสิทธิสอบครูได้ : โดย รศ.ดร.สมาน อัศวภูมิ
เปิดอ่าน 68,286 ☕ คลิกอ่านเลย

"ครู" คือ "ปูชนียบุคคล" หรือ "ผู้แจวเรือจ้าง"
"ครู" คือ "ปูชนียบุคคล" หรือ "ผู้แจวเรือจ้าง"
เปิดอ่าน 13,850 ☕ คลิกอ่านเลย

ซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา-ปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียน ความต่อเนื่องทางนโยบาย?
ซุปเปอร์บอร์ดการศึกษา-ปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียน ความต่อเนื่องทางนโยบาย?
เปิดอ่าน 10,267 ☕ คลิกอ่านเลย

Smart Thailand
Smart Thailand
เปิดอ่าน 8,957 ☕ คลิกอ่านเลย

เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์
เปิดอ่าน 7,683 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

สมาร์ทบอร์ด คืออะไร ข้อควรรู้ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง
สมาร์ทบอร์ด คืออะไร ข้อควรรู้ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 5,059 ครั้ง

ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
เปิดอ่าน 32,694 ครั้ง

เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน
เผยเด็กนร.หญิง ไม่ค่อยกินข้าวเช้า เตือนเสี่ยงกระทบสุขภาพ-การเรียน
เปิดอ่าน 13,841 ครั้ง

เผยแพร่แนวทางการจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา SAR (ไฟล์ Word)
เผยแพร่แนวทางการจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา SAR (ไฟล์ Word)
เปิดอ่าน 11,573 ครั้ง

ทำให้ถั่วฝักยาวมีฝักมาก
ทำให้ถั่วฝักยาวมีฝักมาก
เปิดอ่าน 38,276 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ