สพฐ.ตั้งคณะทำงานปรับโครงสร้างภายใน หวังให้การจัดการศึกษามีคุณภาพตามนโยบายกระทรวง เล็งผุดสำนักพัฒนาคุณภาพการศึกษาแทนสำนักมัธยมฯ ดูแลโรงเรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย
วันนี้ (5 ต.ค.)ดร.พะโยม ชิณวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าการปรับโครงสร้างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว่า นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการ กพฐ.ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานทบทวนภารกิจและโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายใน สพฐ. โดยมี เลขาธิการ กพฐ.เป็นประธาน แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนภารกิจและโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายใน สพฐ. ให้เป็นไปตาม พรฎ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 และพิจารณากำหนดหน้าที่และขอบเขตความรับผิดชอบของสำนักภายใน สพฐ.ให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) และยุทธศาสตร์อื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาให้เกิดคุณภาพ ซึ่งเบื้องต้นจะปรับโครงสร้าง สพฐ. โดยยกสถานะสำนักบริหารงานการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย และหน่วยศึกษานิเทศก์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นภายในขึ้นเป็นหน่วยงานตามโครงสร้าง
รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า จากการประชุมผู้บริหาร สพฐ.ได้มีการหารือเรื่องการทบทวนภารกิจและโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายใน สพฐ. ซึ่งเดิมมีสำนักตามโครงสร้าง 12 สำนัก แต่มีการแยกตามภารกิจตามความจำเป็นในแต่ละช่วงจนมีถึง 22 หน่วยงาน ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า มีมากเกินไปสมควรที่จะควบรวมหน่วยงานให้น้อยลง เพื่อให้งานเกิดประสิทธิภาพและส่งผลไปยังภูมิภาคมากขึ้น โดยเบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่า 12 สำนักตามโครงสร้าง สพฐ.เดิมจะยังคงอยู่ แต่ที่จะเพิ่มสำนักบริหารงานการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย และหน่วยศึกษานิเทศก์นั้น ที่ประชุมเห็นด้วยกับการมีหน่วยศึกษานิเทศก์ในส่วนกลาง ขณะที่สำนักบริหารงานการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย ควรจะตั้งเป็นสำนักส่งเสริมคุณภาพการศึกษาเพื่อดูแลโรงเรียนได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา นอกกจากนี้ยังมีแนวคิดที่จะหลอมรวมหน่วยงานที่เกี่ยวกับกิจการนักเรียน ตั้งเป็นสำนักกิจการนักเรียน และหน่วยงานที่เกี่ยวกับการพัฒนาครูตั้งเป็นสำนักพัฒนาครูด้วย
“การปรับโครงสร้าง สพฐ.ดังกล่าวยังไม่ใช่ข้อสรุป เป็นเพียงแนวคิดของที่ประชุมผู้บริหาร สพฐ. ซึ่งหลังจากนี้จะนำแนวคิดดังกล่าวเสนอต่อคณะทำงานทบทวนภารกิจและโครงสร้างฯ ที่มีเลขาธิการ กพฐ.เป็นประธาน เพื่อหาข้อสรุปก่อนที่จะนำเสนอ รมว.ศึกษาธิการเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป” ดร.พะโยมกล่าว.
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันพุธที่ 5 ตุลาคม 2559 เวลา 13.53 น.