สถานี ก.ค.ศ.
ผู้อำนวยการโรงเรียนกระทำผิดวินัยเกี่ยวกับการเงินและบัญชี
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน สัปดาห์ที่ผ่านมาได้อ่านรายงานการประชุม อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ พบว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทำผิดในเรื่องการเงินและบัญชีเป็นจำนวนมาก วันนี้จึงจะนำเรื่องการกระทำผิดวินัยเกี่ยวกับการเงินและบัญชี ซึ่งได้มีการพิจารณาและลงโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มาบอกกล่าวให้ได้ทราบดังนี้
ผู้อำนวยการสถานศึกษาแห่งหนึ่งในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา มีพฤติการณ์ เบิกถอนเงินโครงการอาหารกลางวันของนักเรียน และเงินอุดหนุนที่ได้รับจัดสรรตามโครงการเรียนฟรีไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 โรงเรียนได้รับจัดสรรเงินงบประมาณเพื่ออุดหนุนโครงการอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนจาก อบต. เป็นจำนวน 72,000 บาท ภายหลังผู้อำนวยการได้ถอนเงินออกจากบัญชีอย่างต่อเนื่องเป็นเงินจำนวน 103,097 บาท ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อการจัดอาหารกลางวันให้กับนักเรียน จากเดิมโรงเรียนเคยจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนครบ 5 วันทำการ แต่ภายหลังที่ผู้อำนวยการได้ทำการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีไป ปรากฏว่าโรงเรียนได้จัดทำอาหารกลางวันให้นักเรียนรับประทานเพียงสัปดาห์ละ2-3 วันเท่านั้น โดยไม่มีพยานหลักฐานว่าผู้อำนวยการนำเงินที่เบิกถอนออกมาลงรายการในระบบบัญชีการเงิน และไม่มีเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการเงินให้ตรวจสอบ รวมทั้งการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน ภายหลังที่ตนได้รับคำสั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนอื่นแล้ว นอกจากนั้นยังมีกรณีเกี่ยวกับเงินอุดหนุนที่ได้รับจากจัดสรรตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี เพิ่มเติมเป็นเงิน 115,448 บาท ผู้อำนวยการสถานศึกษารายดังกล่าวยังได้เบิกถอนเงินออกมาอย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวน 115,076 บาท โดยไม่นำมาลงระบบบัญชีการเงินของโรงเรียนเช่นกัน แต่มีหลักฐานว่าได้นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของทางราชการเกี่ยวกับโครงการเรียนฟรี 15 ปี ในการจัดซื้อวัสดุการศึกษา จำนวน 56,158 บาท แต่ไม่ได้ดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยอย่างร้ายแรง แล้วปรากฏว่าผู้อำนวยการสถานศึกษารายดังกล่าว กระทำความผิดจริง จึงได้เสนอเรื่องให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา พิจารณาลงโทษทางวินัยแก่ผู้อำนวยการสถานศึกษารายนี้ ซึ่ง อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา พิจารณาแล้ว มีมติให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยตามมาตรา 84 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กรณีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ถือเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และให้รายงานต่อ ก.ค.ศ. เพื่อทราบ ซึ่ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ (ซึ่งทำการแทน ก.ค.ศ.) พิจารณาแล้วมีมติรับทราบคำสั่งไล่ออกจากราชการ
การที่นำกรณีนี้มาเป็นตัวอย่างก็เพื่อจะกระตุ้นเตือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ที่มีหน้าที่หรือได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการเงิน ได้ยึดถือปฏิบัติให้เป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย อย่างเคร่งครัด โปร่งใส ตรวจสอบได้ จะได้ไม่ต้องพลาดพลั้งกระทำผิดวินัยในเรื่องดังกล่าว เพราะบทลงโทษจากการกระทำผิดเช่นนี้ร้ายแรง และจะทำให้ต้องเสียอนาคตไปด้วย
พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันจันทร์ ที่ 3 ตุลาคม 2559
ขอบคุณที่มาจาก เว็บไซต์สำนักงาน ก.ค.ศ. วันที่ 3 ตุลาคม 2559