สวัสดีค่ะ เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน เราขอเที่ยวใต้สักครั้ง ก่อนที่จะเข้าสู่สนามสอบเยียวยา
จังหวัดแรกที่ขอเที่ยว คือ จังหวัดตรัง
ตรัง
เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพารา
เด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา
ตรัง หรือ เมืองทับเที่ยง ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างประเทศ เป็นเมืองแรกที่มีต้นยางพารา โดยพระยารัษฎานุประดิษฐมหิศรภักดี นำพันธุ์มาจากมาเลเซียมาปลูกเป็นแห่งแรกของภาคใต้ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ และถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ตรังมีแม่น้ำสำคัญ คือ แม่น้ำตรัง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาหลวง และแม่น้ำปะเหลียน ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด
ตรัง เป็นจังหวัดชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย มีฝั่งทะเลยาวทางด้านตะวันตก ประมาณ ๑๑๙ กิโลเมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะในทะเลอันดามันที่อยู่ในการปกครองกว่า ๔๖ เกาะ ภายในพื้นที่อำเภอกันตัง ๑๒ เกาะ อำเภอปะเหลียน ๑๓ เกาะ และอำเภอสิเกา ๒๑ เกาะ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว คือระหว่างเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤษภาคมของปี
ตรัง มีพื้นที่รวม ๔,๙๔๑ ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น ๙ อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอกันตัง อำเภอห้วยยอด อำเภอย่านตาขาว อำเภอปะเหลียน อำเภอสิเกา อำเภอวังวิเศษ อำเภอนาโยง อำเภอรัษฎา และอำเภอหาดสำราญ
สถานที่น่าสนใจ
อำเภอเมืองตรัง
อนุสาวรีย์พระรัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) อยู่ในบริเวณสวนสาธารณะเขตเทศบาลเมืองตรัง ห่างจากศาลากลางจังหวัด ๑ กิโลเมตร เส้นทางถนนตรัง-พัทลุง พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ได้สร้างความเจริญแก่จังหวัดตรังเป็นอย่างมาก เช่น การคมนาคม เกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ การศึกษา การปกครอง และเป็นผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในจังหวัดตรัง จนแพร่หลายไปทั่วภาคใต้
สระกะพังสุรินทร์ ห่างจากศาลากลางจังหวัด ๒ กิโลเมตร ใกล้อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เป็นแอ่งน้ำหรือหนองน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ ๕๐ ไร่ สระกะพังสุรินทร์ตั้งชื่อตามพระยาสุรินทราราชา (นกยูง วิเศษกุล) อดีตสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต รอบบริเวณเป็นสวนสาธารณะสำหรับนั่งพักผ่อนได้
สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์’๙๕ (ทุ่งน้ำผุดหรือเขาแปะช้อย) อยู่ห่างจากตัวเมือง ๓ กิโลเมตร เป็นสวนสาธารณะร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ช่วงเย็น ๆ จะมีประชาชนมานั่งพักผ่อนและออกกำลังกายเป็นจำนวนมาก
พระนอนทรงเครื่องโนราวัดภูเขาทอง ประดิษฐานอยู่ที่วัดภูเขาทอง หมู่ ๑ ตำบลน้ำผุด ห่างจากตัวเมือง ๒๐ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๔๑๒๓ เป็นพระพุทธรูปโบราณปางปรินิพพาน สร้างสมัยศรีวิชัย ลักษณะเด่นคือ พระเศียรทรงเทริด มโนราตามศิลปะของภาคใต้ โดยเชื่อกันว่า เทริดเป็นเครื่องประดับที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นของสูง กรมศิลปากรจดทะเบียนเป็นโบราณสถาน
ที่เราจะไปที่แรก คือ
เกาะมุกและถ้ำมรกต นับเป็นจุดเด่นที่สุดในทะเลตรัง ลักษณะของเกาะทางด้านทิศตะวันตกส่วนใหญ่เป็นโขดหน้าผาหินสูงตระหง่านหันหน้าออกสู่ทะเล ทางฝั่งตะวันออกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง ที่ยังคงวิถีชีวิตของชาวเกาะไว้อย่างดีสามารถเดินเที่ยวรอบเกาะได้ และไม่ห่างจากเกาะมุกมีถ้ำมรกตหรือถ้ำทะเลซึ่งมีความงดงามตระการตาอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ สูงพ้นระดับน้ำพอเรือลอดได้ หรือต้องว่ายน้ำเข้าไปถ้าหากน้ำมาก ระยะทาง ๘๐ เมตร บริเวณปากทางเข้าถ้ำแสงจากภายนอกจะสะท้อนกับน้ำภายในถ้ำทำให้เห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต ดูแปลกตาและมหัศจรรย์ในความสวยงามที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้าง เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเห็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน นั่งเล่นน้ำได้ เกาะมุกมีที่พักเอกชนบริการ
การเดินทาง นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะมุก สามารถลงเรือจากท่าเรือปากเมง อำเภอสิเกา ใช้เวลาเดินทาง ๔๐ นาที ค่าเช่าเรือเหมาลำราคาประมาณ ๑,๘๐๐-๒,๕๐๐ บาท/วัน หรือนั่งเรือโดยสารขึ้นที่ท่าเรือ
กวนตุงกู ค่าเรือคนละ ๑๐๐ บาท ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง
(เราเดินทางโดยเรือเช่าเหมาลำ แต่น่าเสียดาย วันนี้ อาจมีพายุ ไม่เป็นไร เคยเล่นน้ำฝน อาบน้ำฝนบนบก มาอาบน้ำฝนในทะเลดูบ้างคงสนุกดี)
ว่าแล้วก็เดินทางเลย
เราเดินทางโดยเรือ (ของเลตรัง รีสอร์ท บริการดีมาก สาธิตการใช้หน้ากากเพื่อดำน้ำดูปะการัง )ถึงถ้ำมรกต ซึ่งสวยงามสมชื่อ การเข้าไปเที่ยวต้องลงลอยคอ ค่อยๆเกาะเชือกไปเป็นแถวสวยงาม เพื่อเข้าไปชม (กว่าจะได้ชมตวามงามก็ต้องลำบากพอสมควร) ครั้งต่อไป จะนำภาพสวยๆมาให้เพื่อนสมาชิกชมกัน (ยังมีต่อนะคะ)