ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ


บทความการศึกษา 29 ส.ค. 2559 เวลา 07:14 น. เปิดอ่าน : 25,107 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ

อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....
โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ

ขณะที่รถติดลูกถามว่าสีแดง สีเหลือง และสีเขียว ของสัญญาณไฟจราจร มีความหมายว่าอะไร คุณพ่อคุณแม่ตอบลูกว่าอย่างไร เราตอบว่าสีแดงหมายถึงหยุด สีเขียวหมายถึงให้ขับรถต่อไปได้ หรือเราใช้วิธีถามคำถามกลับไป ให้ลูกคิดและให้ลูกพยายามค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง หลายต่อหลายครั้งเราใช้วิธีตอบ และให้ความกระจ่างแก่ลูกในทันที เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา ปัจจุบันผู้ปกครอง คุณครู หรือผู้ดูแลเด็กไม่มีความอดทนเพียงพอในการที่จะตอบสนองต่อคำถามของเด็กได้ตลอดเวลา ช่วงเวลาสั้น ๆ และสำคัญในการตอบคำถามนี้ นักวิจัยกล่าวว่าจะส่งผลต่อชีวิตของเด็กเมื่อมีอายุ 20 ปีขึ้นไป

ศาสตราจารย์ ไฮท์ เพเซท และคณะ จากมหาวิทยาลัยเทมเพิล ได้จัดพิมพ์หนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนรู้ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้ปกครองตระหนักถึงทักษะการพัฒนาเด็กที่จะนำไปสู่การประสบความสำเร็จที่แท้จริงในอนาคต ว่า ในปัจจุบันนี้เราอยู่ในโลกแห่งการรีบเร่ง และสับสน ผู้ปกครองกังวลใจอย่างมากต่ออนาคตของลูกหลาน มีข้อมูลข่าวสารมากมายถูกเผยแพร่และผลักดันให้เราคิดว่าต้องแข่งขันเพื่อการเป็นที่หนึ่ง ผู้ปกครองต้องการให้ลูกได้คะแนนสูงในทุกวิชา แต่จากผลการวิจัยพบว่าเด็กที่ทำคะแนนสูงในวิชาต่าง ๆ ไม่ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตเสมอไป

เรากำลังฝึกให้เด็กทำตามอย่างคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งเป็นการก้าวถอยหลัง เพราะคิดว่าคอมพิวเตอร์นั้นเป็นสิ่งที่ฉลาดกว่ามนุษย์ อีกทั้งทำให้เด็กคำนึงถึงความสัมพันธ์ทางด้านสังคม ความเอื้ออาทรและการเอาใจใส่ต่อกันและกันรวมทั้งการเป็นคนดีของสังคมน้อยลง เพราะคอมพิวเตอร์ไม่สามารถตอบสนองได้ครบทุกพัฒนาการของคนเราได้

การเลี้ยงลูกในศตวรรษที่ 21 ได้แนะนำแบบ 6C คือ (collaboration, communication, content, critical thinking, creative innovation และ confidence) แปลได้ความหมายว่า การร่วมมือ การสื่อสารเนื้อหา การคิดวิเคราะห์ นวัตกรรมที่สร้างสรรค์ และความเชื่อมั่น โดยนักวิจัยเชื่อว่าการเชื่อมโยงทักษะต่าง ๆ นี้ เข้าด้วยกัน และการลงลึกถึงพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน จะนำไปสู่การประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ความสัมพันธ์ของทั้ง 6C คือ การร่วมมือ การปรับตัวและควบคุมตัวเองที่จะไม่ไปทำร้าย หรือทำให้ผู้อื่นสะดุด ซึ่งการร่วมมือนี้ถือเป็นหัวใจของการสร้างพื้นฐานประสบการณ์ที่หลากหลายในแต่ละวัฒนธรรม ซึ่งได้จากการเรียนในชั้นเรียน ต่อมาคือ การสื่อสาร เราไม่สามารถจะสื่อสารถึงกันได้ หากไม่มีผู้รับสาร เราต้องมีทักษะในการพูด การเขียน การอ่าน และการฟัง ต่อมาคือเนื้อหา เราไม่สามารถจะสืีอสารได้หากไม่เข้าใจภาษาหรืออ่านหนังสือไม่ได้ การคิดวิเคราะห์จะขึ้นอยู่กับเนื้อหา เพราะเราไม่สามารถจะได้ข้อมูลต่าง ๆ ได้ถ้าเราไม่มีเนื้อหาที่จะศึกษา นวัตกรรมที่สร้างสรรค์ และความเชื่อมั่นจะเชื่อมโยงและตามมาเป็นลำดับ ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนที่ไม่เคยพบกับความผิดพลาด และหากเราให้เด็ก ๆอยู่อย่างสะดวกสบายไม่เผชิญกับความผิดพลาด เด็กจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้

หลังจากที่เราเข้าใจความหมายของความสำคัญทั้ง6อย่างเรียบร้อยแล้ว เราจะมองลึกลงไปถึงขั้นพัฒนาการ 4 ด้านของเด็ก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าการคิดวิเคราะห์เราต้องมีเนื้อหาก่อน หลายคนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานมีกระดาษกองสุมอยู่ มีข้อมูล เช่น หนังสือ และแมกกาซีน กองอยู่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่จะต้องเลือกใช้ เราต้องวิเคราะห์ว่าเราจะเอาเนื้อหาส่วนไหนมา ดังนั้น ขั้นตอนที่หนึ่ง คือ เราต้องมีความเชื่อมั่นว่าข้อมูลนั้นเชื่อถึอได้ หากมีคนบอกว่ามีไดโนเสาร์ที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ขอนแก่น เราคงต้องซื้อหนังสือเล่มนั้นมาอ่านทันที ขั้นตอนที่สองศึกษาความจริงจากข้อมูลซึ่งแตกต่างกัน เช่น บางคนบอกว่าประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศอื่น เรามีเอกราชมาช้านาน แต่อีกเล่มหนึ่งบอกว่าเราเคยตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าและเคยเสียกรุงที่กรุงศรีอยุธยา นี่คือ จุดเริ่มต้นของการคิดวิเคราะห์ อันดับที่สามเมื่อเรารวบรวมความคิดแล้ว หลายคนมักใช้คำว่า มีคนกล่าวว่า โดยไม่อ้างอิง และไม่เคารพงานของผู้อื่น หรือไม่มีการอ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ ดังนั้น การคิดอย่างลึกซึ้งและใคร่ครวญข้อมูลที่มีอย่างเข้าลึก รวมทั้งการใช้เวลาจะช่วยให้เราเข้าใจและตีปัญหาได้อย่างถ่องแท้ และเข้าถึงทุกแง่มุมของข้อมูล


การคิดอย่างวิเคราะห์ต้องอาศัยการผสมผสานวัฒนธรรม รวมทั้งความรู้ของผู้ปกครอง ครู รวมทั้งประสบการณ์ของปู่ย่าตายายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น หากเราต้องการสร้างเด็ก ๆ ให้เป็นผู้ที่มีความคิดอย่างลึกซึ้งและวิเคราะห์ เราจะต้องให้เด็ก ๆ คิด และตอบปัญหาด้วยตนเอง ค้นพบด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าเมื่อเวลาที่เขาถามคำถาม เราจะให้คำตอบทันทีว่า.... ซึ่งเป็นการให้คำตอบกับเด็ก ๆ เลย แทนที่จะทำอย่างนั้นเราต้องให้เขาคิดและถามคำถามมากขึ้น รวมทั้งให้เข้าใจถึงความคิดของผู้อื่นด้วย มีใจกว้างที่จะยอมรับสิ่งต่าง ๆ ได้ เช่น ถ้าเราเห็นคนจรจัดนอนอยู่ข้างถนน เราคิดว่าคนจรจัดคนนั้นกำลังคิดอะไรและรู้สึกอย่างไรที่ไม่มีบ้านอยู่

การมองจากมุมของคนอื่นจะช่วยให้เรามีความคิดที่กว้างและมีหลายมุมมอง มีความคิดวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งในสิ่งต่าง ๆ โดยมองในแง่มุมที่ลึกและกว้าง เข้าใจโลกมากขึ้นนั่นเป็นรากฐานของการคิดวิเคราะห์ ทฤษฎีของจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญที และสามารถทำให้เกิดการคิดวิเคราะห์ได้ ซึ่งแตกต่างจากการเรียนวิชาการในชั้นเรียน

มนุษย์เราไม่ได้นั่งเรียนรู้แค่การท่องจำจากตำราต่าง ๆ แต่โลกของเรากว้างมากกว่านั้น เราต้องคิดนอกกรอบและเผชิญกับโลกนอกโรงเรียน

คุณพ่อคุณแม่ต้องการสร้างลูกให้เป็นหุ่นยนต์ที่ทำตามเราทุกอย่างเรียกเมื่อไหร่ก็มา หรือเราต้องการสร้างลูกให้มีความคิดเป็นของตัวเองทำอะไรด้วยตัวเองเป็นคนมีเหตุมีผล รู้จักตั้งคำถามและค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่คงต้องกลับมาดูว่าขณะนี้ลูกของเราอยู่ที่ตรงจุดไหน และเราจะใส่ทักษะที่แตกต่างให้ลูกได้อย่างไร เพื่อลูกจะเติบโตเป็นคนที่สามารถเผชิญและเข้าใจกับโลกภายนอกได้อย่างดีในอนาคต

สิ่งนี้คือ การเรียนรู้โดยเน้นเรื่องของสังคม ความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่การวัดและการประเมินผลทางด้านของสติปัญญาไอคิว แต่รวมไปถึงความฉลาดทุกอย่างในตัวของเด็ก การปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องคำนึงถึง เช่นเดียวกันหากเราต้องการให้เด็กมีความเชื่อมั่น แต่ต้องตอบคำถามที่มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว การเติมคำตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้องคงไม่เป็นการสร้างเด็กให้มีการคิดวิเคราะห์อีกต่อไปแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกเป็นคนวิเคราะห์และคิดลึกซึ้ง คงต้องหาโอกาสให้ลูกคิดและตอบคำตอบได้อย่างหลากหลาย เช่น ถามลูกว่าลูกมีความคิดอะไรใหม่ ๆ ในการทำเตียงให้เรียบร้อยบ้างผลลัพธ์ที่ได้อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่แปลกใจจากความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลายที่เกิดขึ้นจากลูกก็เป็นได้ เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวเสมอค่ะ

 

 

ขอบคุณที่มาจาก MGR Online 28 สิงหาคม 2559

 


อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณอยากเลี้ยงลูกให้ฉลาดต้องไม่มีคำว่า....โดยดร.สุพาพรเทพยวรรณ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?

ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?


เปิดอ่าน 8,083 ครั้ง
เคล็ดลับเรียนแล้วรวย

เคล็ดลับเรียนแล้วรวย


เปิดอ่าน 7,904 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ผู้นำซูเปอร์บอร์ดการศึกษา?

ผู้นำซูเปอร์บอร์ดการศึกษา?

เปิดอ่าน 8,812 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คุณครูหายไปไหนครับ?
คุณครูหายไปไหนครับ?
เปิดอ่าน 20,690 ☕ คลิกอ่านเลย

รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา 4.0 ที่มีประสิทธิผลต่อการเป็นองค์กรคุณภาพของสถานศึกษาเข้มแข็ง
เปิดอ่าน 26,022 ☕ คลิกอ่านเลย

ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
ปลูกวินัย "แม่พิมพ์ของชาติ"
เปิดอ่าน 11,840 ☕ คลิกอ่านเลย

เดินหน้า ปฏิรูปการศึกษา 2559
เดินหน้า ปฏิรูปการศึกษา 2559
เปิดอ่าน 8,808 ☕ คลิกอ่านเลย

โครงการเพชรในตม โครงการที่ให้ทุนนักเรียนเรียนครูเมื่อจบแล้วบรรจุเป็นครูโดยตรง
โครงการเพชรในตม โครงการที่ให้ทุนนักเรียนเรียนครูเมื่อจบแล้วบรรจุเป็นครูโดยตรง
เปิดอ่าน 33,579 ☕ คลิกอ่านเลย

การปฏิรูปการศึกษาอย่าทำแบบปะผุ...ต้องปรับทั้งระบบ
การปฏิรูปการศึกษาอย่าทำแบบปะผุ...ต้องปรับทั้งระบบ
เปิดอ่าน 8,924 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

10 เคล็ดลับคลายความเหนื่อยล้า ปลุกพลังกลับมาอีกครั้ง
10 เคล็ดลับคลายความเหนื่อยล้า ปลุกพลังกลับมาอีกครั้ง
เปิดอ่าน 15,125 ครั้ง

มัลเบอร์รี่ ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013
มัลเบอร์รี่ ผลไม้สุดเทรนดี้ ประจำปี 2013
เปิดอ่าน 12,657 ครั้ง

นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
นัยสำคัญยุทธศาสตร์การศึกษาในพลวัตศตวรรษที่ 21 สู่การเป็นประชาคมอาเชียน อย่างยั่งยืนสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานไทย
เปิดอ่าน 3,371 ครั้ง

สะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์แล้วฟังกันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย เรามีทางช่วย
สะกดชื่อเป็นภาษาอังกฤษผ่านทางโทรศัพท์แล้วฟังกันไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย เรามีทางช่วย
เปิดอ่าน 15,945 ครั้ง

กินไข่ไก่...อย่างไรให้ได้ประโยชน์
กินไข่ไก่...อย่างไรให้ได้ประโยชน์
เปิดอ่าน 25,066 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ