กำชับแม้รีบแต่ต้องโปร่งใส ใช้เงินให้เกิดประโยชน์/ส่วนรร.เล็กยันไม่มีนโยบายควบ
"ดาว์พงษ์" จี้หน่วยงานใน ศธ.เร่งใช้งบ กระตุ้นเศรษฐกิจ ย้ำแม้จะรีบแต่ต้องโปร่งใส ไม่มีเงินทอนหรือใช้จ่ายเงินกับโครงการที่ไม่ได้ต้องการแท้จริง ยันอีกรอบไม่มีนโยบายควบโรงเรียนขนาดเล็ก โดยเฉพาะที่อยู่ในพื้นที่ภูเขาและพื้นที่พิเศษ
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ในที่ประชุมตนได้กำชับเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2559 ที่ ศธ.ได้รับการจัดสรรจำนวน 9,400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 5,000 ล้านบาท, สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 3,800 ล้านบาท, สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 161 ล้านบาท และสำนักงานปลัด ศธ. 83 ล้านบาท และอื่นๆ เนื่องจากการใช้งบประมาณดังกล่าวมีเงื่อนไข คือเบิกจ่ายงบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ดังนั้น ศธ.จึงต้องเร่งจะทำรายละเอียดต่างๆ การขอใช้งบ เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงกับสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 2 กันยายน 2559 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่จำกัด ตนจึงเป็นห่วงว่าอาจทำให้เกิดช่องว่างของการทุจริตได้ โดยเฉพาะการเร่งรีบยัดเยียดโครงการต่างๆ ซึ่งไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริง ตนจึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบโครงการที่จะทำอย่างละเอียด รวมถึงมีขั้นตอนการตรวจสอบอย่างโปร่งใส ไม่ใช่มีการเรียกเงินทอนมาเป็นลำดับๆ และเกิดปัญหาไล่มาจนพาดพิงถึงตัว รมว.ศธ. ว่ามีเอี่ยวหรือไม่ ซึ่งตนไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ในส่วนของ สพฐ. ตนต้องการให้เน้นไปที่การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คน ประมาณ 800 โรง ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะต้องนำเด็กจากโรงเรียนดังกล่าวไปรวมกับโรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดกลาง ดังนั้นจึงต้องมีการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้โรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่จะเป็นโรงเรียนแม่เหล็กรองรับเด็กจากโรงเรียนขนาดเล็ก
"เช่น โรงเรียนขนาดใหญ่ มีเด็กอยู่ 300 คน มีการบริหารจัดการดีอยู่แล้ว ก็เสริมความเข้มแข็งในการรวมนักเรียนจากโรงเรียนขนาดเล็ก เป็นต้น ซึ่งต้องมีการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยดูแล" รมว.ศธ.กล่าว
พล.อ.ดาว์พงษ์ย้ำอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่มีนโยบายควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก แต่จะดูวิธีการในรูปแบบอื่น โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่บนเขาและพื้นที่พิเศษ จะไม่เข้าไปยุ่งแน่นอน ให้อิสระการจัดการเรียนการสอนเหมือนเดิม ซึ่งเจตนารมณ์ของตน ต้องการให้คุณภาพการศึกษาดีขึ้น ส่วนงบของ สกอ.จะกระจายไปที่มหาวิทยาลัย แบ่งเป็น 2 หมวด คือ ครุภัณฑ์และการก่อสร้าง โดยมอบให้ สกอ.ไปดูว่างบที่ให้มหาวิทยาลัยนำไปใช้ในคณะที่เป็นไปตามนโยบายที่ถูกที่ควรหรือไม่ เช่น การผลิตครู และการผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ โดยเร็วๆ นี้ตนจะเรียกมหาวิทยาลัยมาคุยถึงการใช้งบอีกครั้ง.
ขอบคุณที่มาจาก ไทยโพสต์ วันที่ 25 สิงหาคม 2559