ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

16 ปีปฎิรูปการศึกษาล้มเหลว ไทยสูญรายได้1.5 ล้านล้านบาท


ข่าวการศึกษา 23 ส.ค. 2559 เวลา 19:20 น. เปิดอ่าน : 27,817 ครั้ง

Advertisement

16 ปีปฎิรูปการศึกษาล้มเหลว ไทยสูญรายได้1.5 ล้านล้านบาท

สถาบันอนาคตไทยศึกษา เผย16ปี ไทยปฎิรูปการศึกษาล้มเหลว สูญเสียโอกาส1.5ล้านล้านบาท งานวิจัยชี้ชัดการศึกษามีปัญหาทุกระดับ พัฒนาการเด็ก1ใน5จะต่ำกว่าเกณฑ์

เมื่อวันที่23ส.ค. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา นำเสนองานวิจัยหัวข้อ “โอกาสที่หายไป:12ข้อเท็จจริงการศึกษาไทย” ในงานThailand Strategic Giving ว่าปฎิรูปการศึกษาของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2542จนถึงปัจจุบัน ผ่านไป16ปี พบว่า การที่ปฎิรูปการศึกษาไม่สำเร็จ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังนั้น ส่งผลให้เกิดค่าเสียโอกาสที่ประเทศควรจะได้รับ ประมาณ1.5ล้านล้านบาท หรือกว่า11%ของจีดีพี โดยตัวเลขค่าเสียโอกาสที่คำนวณได้นั้น เกิดจากการเปรียบเทียบประเทศที่ปฎิรูปการศึกษาสำเร็จ เช่น โปแลนด์ ปฎิรูปการศึกษาโดยใช้เวลาประมาณ11ปี ทำให้เด็กสอบได้คะแนนPISAเพิ่มขึ้น48คะแนน ขณะที่ของเรา 10หรือ11ปี คะแนนเพิ่มขึ้นเพียง3คะแนน ซึ่งการที่ผลคะแนนPISAเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิ์ภาพของแรงงาน มีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ และถ้าประเทศไทย ปฎิรูปการศึกษาสำเร็จ จะทำให้ไม่ต้องเสียโอกาส เฉลี่ยปีละ 0.14%และไม่ต้องเสียรายได้ในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา

ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวต่อไปว่าการปฎิรูปการศึกษา มีความสำคัญมากที่ต้องทำให้สำเร็จ เพราะหากไม่สำเร็จจะถือเป็นการสูญเสียโอกาสที่ไม่ใช่ส่งผลเฉพาะเด็กเท่านั้น แต่รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศด้วย ซึ่งทุกระดับการศึกษาในขณะนี้มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนวัยเรียน พบว่า พัฒนาการของเด็ก1ใน5จะต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ควรจะเป็น ส่วนระดับประถมศึกษา ตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่1ถึง6มีนักเรียนที่อ่านไม่ออก ประมาณ1.4แสนคน และเขียนไม่ได้ ประมาณ2แสนกว่าคน ,ระดับมัธยมศึกษา เด็กอ่านออกเขียนได้ แต่จับใจความไม่ได้ โดยดูได้จากผลคะแนนPISAเด็กไทย1ใน3หรือ32%จะอ่านจับใจความไม่ได้ และเด็ก6ใน10เท่านั้นที่เรียนจบมัธยมศึกษา

อีกทั้งโรงเรียนดีๆ ที่มีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ติดท็อป50ของประเทศ 34แห่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้เด็กในกรุงเทพฯมีโอกาสศึกษาต่อมหาวิทยาลัยดีๆ สูงกว่าเด็กในต่างจังหวัด และมีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัย ขณะที่เด็กต่างจังหวัด มีเพียง20%ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการเรียนพิเศษติวเข้ามหาวิทยาลัย คิดเป็น1.3เท่าของค่าใช้จ่ายในการเรียนปกติ


ทั้งนี้ ปัจจุบัน แม้จะมีมหาวิทยาลัยให้เลือกมาก เนื่องจากมีที่นั่งสอบมากกว่าเด็กที่เข้าสอบ แต่พบว่า2ใน3ครัวเรือนไม่มีเงินส่งลูกเรียนต่อมหาวิทยาลัย เพราะค่าใช่จ่ายในการส่งเด็กคนหนึ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย4ปีใช้เงินประมาณ5แสนกว่าบาท ซึ่งต่อให้ค่าเล่าเรียนถูก แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ สูง หรือถ้ากู้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา คนหนึ่งได้ประมาณ1.7แสนบาท ทำให้พ่อแม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินส่งลูกเรียน ซึ่งมหาวิทยาลัยเข้าเรียนไม่อยาก และจบไม่อยาก แต่เมื่อจบออกมาแล้ว ต่อให้สถิติการมีงานทำของเด็กสูง มีเพียง1%ของเด็กจบใหม่ที่ตกงานเกิน6เดือน แต่งานที่เด็กทำ มีเพียง1ใน4เท่านั้นที่ทำงานตามวุฒิ สาขาวิชาชีพที่ตนเองเรียนจบมา ส่วนใหญ่จะทำงานไม่ตรงวุฒิ หรือต่ำกว่าวุฒิที่เรียนมา

“สิ่งที่ทำให้ปฎิรูปการศึกษาไม่สำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องงบประมาณ เพราะภาครัฐได้จัดสรรงบประมาณด้านการศึกษาจำนวนมาก แต่เท่าที่ศึกษาเบื้องต้น เกิดจากการบริหารการจัดการ หลักสูตร และคุณภาพของครู โดยเฉพาะคุณภาพของครูที่เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งตราบใดที่ไม่แก้ปัญหาเรื่องนี้ แล้วไปแก้โดยวิธีอื่น เช่น พยายามเพิ่มลดโรงเรียน ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการศึกษาได้ ตอนนี้แม้จะมีการพัฒนาครู แต่ยังเป็นการแก้ปัญหาไม่ครบถ้วน เพราะระบบราชการ ชอบวัดผลจากตัวชี้วัดการทำงาน เช่น จำนวนเปอร์เซ็นต์การอบรม เรื่องกระบวนการ โดยไม่ได้วัดจากคุณภาพของเด็ก ดังนั้น หากไม่มีการพัฒนาครูอย่างถูกต้องก็ไม่สามารถทำให้ปฎิรูปการศึกษาสำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม ปฎิรูปการศึกษาเป็นเรื่องของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐ หรือเอกชน ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง”ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าว

ด้านนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “บทบาทของการบริจาคเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย” ว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่โอบอ้อมอารี ชอบทำบุญ ชอบบริจาคเงินช่วยเหลือคนที่ยากลำบากกว่า แต่ก็เป็นการหวังผลตอบแทนให้เกิดกับตัวเอง และเป็นการให้ที่กระจัดกระจาย ไม่มีการตรวจสอบด้วยว่าเงินที่บริจาคนั้นมีการจัดนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ ดังนั้นในอนาคตการบริจาคของคนไทย ควรคำนึงถึงผลที่มีต่อสังคมไทยในภาพรวม ไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง

ทั้งนี้การบริจาคเงินเพื่อเป็นการทุนการศึกษาเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนยากจนได้รับการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเพราะการศึกษาที่มีคุณภาพจะช่วยแก้ไขปัญหาความยากจนได้ ขณะที่รัฐบาลก็ต้องลงทุนด้านการศึกษาที่สูง แต่ระบบการศึกษาไทยก็ยังล้มเหลวอยู่เช่นเดิม ในประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการปฏิรูปการศึกษา จะเน้นการปฏิรูปหลักสูตรและคุณภาพครู

ดังนั้นประเทศไทยจึงควรให้ครูลดการสอนในห้องเรียน และตั้งคำถามเพื่อให้เด็กตอบโดยไม่ใช่คำตอบที่ถูกหรือผิด แต่เป็นการถามเพื่อกระตุ้นให้เด็กพูดและคิดอย่างต่อเนื่อง โดยมีครูเป็นผู้ให้ข้อมูล ซึ่งจะทำให้เด็กรู้จักคิดอย่างเป็นระบบ สังคมไทยจะต้องลงทุนด้านการศึกษา ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต เพื่อลูกหลาน ไม่ใช่เพื่อตัวเราในปัจจุบัน

 


ขอบคุณที่มาจาก คม ชัด ลึก วันที่ 23 สิงหาคม 2559

 


16 ปีปฎิรูปการศึกษาล้มเหลว ไทยสูญรายได้1.5 ล้านล้านบาท16ปีปฎิรูปการศึกษาล้มเหลวไทยสูญรายได้1.5ล้านล้านบาท

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารการศึกษา และตัวชี้วัดการประเมิน

การแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารการศึกษา และตัวชี้วัดการประเมิน

เปิดอ่าน 4,126 ☕ 6 ก.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญและวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
การดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญและวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
เปิดอ่าน 825 ☕ 16 ก.ค. 2567

สพฐ.รุกพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเด็กประถมฯ ปลื้ม เด็ก รร.คุณภาพ ผ่านเกณฑ์ A1 CEFR
สพฐ.รุกพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเด็กประถมฯ ปลื้ม เด็ก รร.คุณภาพ ผ่านเกณฑ์ A1 CEFR
เปิดอ่าน 241 ☕ 16 ก.ค. 2567

บอร์ดขับเคลื่อนคุณภาพผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานประชุมนัดแรก เป้าหมายยกระดับคุณภาพผู้เรียน ไม่เน้นปรับหลักสูตร
บอร์ดขับเคลื่อนคุณภาพผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานประชุมนัดแรก เป้าหมายยกระดับคุณภาพผู้เรียน ไม่เน้นปรับหลักสูตร
เปิดอ่าน 246 ☕ 16 ก.ค. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนต้นแบบลูกเสือ สู่ศตวรรษที่ 21 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนต้นแบบลูกเสือ สู่ศตวรรษที่ 21 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 1,535 ☕ 15 ก.ค. 2567

แนวทางการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณโครงการสนับสนุนและติดตามการดำเนินงานของสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567
แนวทางการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณโครงการสนับสนุนและติดตามการดำเนินงานของสถานศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567
เปิดอ่าน 951 ☕ 13 ก.ค. 2567

การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา)
การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา)
เปิดอ่าน 1,860 ☕ 13 ก.ค. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
ใช้บัตรเดบิตอย่างไรให้เป็น
เปิดอ่าน 9,958 ครั้ง

ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
ข้อคิดเห็นต่อการปรับโครงสร้าง กระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 12,012 ครั้ง

ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023
ส่อง 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ ปี 2023
เปิดอ่าน 1,527 ครั้ง

ข้อสอบ O-NET รูปแบบอัตนัย ภาษาไทย ป.6 มีจำนวนกี่ข้อ กี่คะแนน และออกเนื้อหาอะไรบ้าง
ข้อสอบ O-NET รูปแบบอัตนัย ภาษาไทย ป.6 มีจำนวนกี่ข้อ กี่คะแนน และออกเนื้อหาอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 27,820 ครั้ง

จดหมายฉบับที่ 56 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรา 44 ...ครูและนักเรียนได้อะไร ?
จดหมายฉบับที่ 56 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรา 44 ...ครูและนักเรียนได้อะไร ?
เปิดอ่าน 9,552 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ