ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"หมอประเวศ"หนุนปฏิวัติการศึกษาเลิกเอาแต่ท่องจำตำรา


ข่าวการศึกษา 22 ส.ค. 2559 เวลา 12:38 น. เปิดอ่าน : 15,319 ครั้ง
Advertisement

"หมอประเวศ"หนุนปฏิวัติการศึกษาเลิกเอาแต่ท่องจำตำรา

Advertisement

เมื่อวันที่ 20-21 สิงหาคม ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดการประชุมเวทีวิชาการ “สานพลังการเรียนรู้ เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน : วิถีสู่โรงเรียนคุณภาพเพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน” โดยมีเครือข่ายครูและบุคลากรทางการศึกษา และภาคีเครือข่ายคนทำงานเพื่อสร้างสุขภาวะเด็กและเยาวชน ทั้งจากภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาควิชาการ เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน

ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อวิถีสู่การสร้างโรงเรียนคุณภาพเพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน : รากฐานของการพัฒนาประเทศว่า เด็กและเยาวชนเป็นสะพานสู่การพัฒนาทั้งหมดเพราะเชื่อมโยงกับโรงเรียน ภาคเอกชน ประชาสังคม ท้องถิ่น ชุมชน อย่างไรก็ตามสัมพันธภาพในสังคมไทยส่วนใหญ่เป็นสัมพันธภาพเชิงอำนาจแนวดิ่งแม้บางครั้งจะเป็นเจตนาที่ดีก็ตามแต่ธรรมชาติของสมองจะมีปฏิกิริยาต่อสู้ โรงเรียนจึงต้องเปลี่ยนจากอำนาจแนวดิ่งเป็นสัมพันธภาพแนวราบโดยเปิดออกไปสัมพันธ์กับความจริงของชีวิตและสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงกับชุมชน ท้องถิ่น ภาคธุรกิจ

“การพัฒนาเด็กและเยาวชนต้องตระหนักว่าไม่มีใครเหมือนกันในโลก อย่าทำลายเยาวชนด้วยการยัดเยียดให้ท่องวิชาเหมือนกัน เยาวชนทุกคนต้องเก่งในทางที่ต่างกัน คนไทยทุกวันนี้ขาดความอดทน ไม่มีสมาธิอยู่ได้นานๆเพราะวิธีการเรียนที่เปลี่ยนเป็นคาบๆ ไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ชอบได้นานๆ ดังนั้นการศึกษาต้องวางแผนให้เด็กได้ทำสิ่งที่ชอบได้นานๆ ซึ่งเป็นการฝึกสมาธิและความอดทน คนไทยยังขาดทักษะการจัดการซึ่งเป็นอันตรายมากในการทำงาน เพราะการศึกษาเน้นแต่ท่องวิชา หากให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติจะเป็นการฝึกทักษะการจัดการ ทั้งนี้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความซับซ้อนไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพียงลำพังต้องอาศัยศักยภาพสูงสุดของมนุษย์ร่วมกันนั่นคือ การปฏิวัติจิตสำนึกและสัมพันธภาพแบบใหม่ เพราะทุกคนมีจิตสำนึกมีสมองส่วนหน้าเหมือนกัน ครูจึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนได้ค้นพบและเป็นเมล็ดพันธุ์ความดีที่จะช่วยกู้สิ่งเหล่านี้”ศ.นพ.ประเวศ กล่าว

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า การพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีสุขภาวะที่ดีการให้ความรู้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับการเป็นพลเมืองของโลกในยุคศตวรรษที่ 21 จึงต้องสร้างทักษะที่จำเป็นโดยเฉพาะทักษะที่ตลาดแรงงานโลกต้องการในอีก 4 ปีข้างหน้า ได้แก่ ทักษะการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ การจัดการบุคคล และการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีโจทย์ท้าทายต่อการเสริมสร้างสุขภาวะเด็กและเยาวชน ทั้งภาวะน้ำหนักเกินพบว่า 1 ใน 4 ของเยาวชนไทยเป็นโรคอ้วนโดยพบแนวโน้มการกินเครื่องดื่มหวานในกลุ่มเด็กเล็กเพิ่มขึ้น ภาวะสังคมก้มหน้าซึ่งปัจจุบันคนไทยใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือถึง 4.2 ชั่วโมงต่อวัน โดยส่วนใหญ่ใช้งานไปกับสื่อโซเซียลมีเดียรวมถึงกระแสโปเกม่อนที่กำลังเป็นที่นิยมของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน และภาวะการเกิดน้อยด้อยคุณภาพ ในปี 2557 มีทารกที่เกิดจากแม่วัยรุ่นวันละ 334 คน โรงเรียนจึงถือเป็นฐานการทำงานที่สำคัญเพราะส่งผลถึงเด็กและเยาวชนโดยตรง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การทำให้ผู้เรียนเป็นสุข ทั้งร่างกาย จิตใจ ทักษะชีวิต ความเป็นพลเมืองดี และความรักในการเรียนรู้ จึงต้องทำทั้งการลดปัจจัยเสี่ยง จัดโครงสร้างและระบบต่าง ๆ ให้โรงเรียน สภาพแวดล้อม ครอบครัว และชุมชนเป็นพื้นที่ปลอดภัย โดยทำงานร่วมกันของคน 4 กลุ่ม คือ ผู้ปกครองและชุมชน คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหาร และครู

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า นโยบายการศึกษาที่ผ่านมาล้มเหลวโดยสิ้นเชิงเพราะการจัดทำแผนเชิงนโยบายส่วนใหญ่วางแล้วให้ผู้อื่นรับไปทำ การถ่ายทอดนโยบายจึงเป็นการทำงานจากบนลงล่างโดยใช้วิธีการฝึกอบรม ทำเอกสาร งานนำร่อง การตีความจึงเป็นไปคนละทิศทางกลายเป็นภาระของครูและโรงเรียน ขณะเดียวกันในระดับสถานศึกษามีหลายแห่งที่ถูกพัฒนาจากล่างขึ้นบน แต่ไม่สามารถขยายผลได้เพราะขาดการเชื่อมโยงกับระดับนโยบายซึ่งเป็นข้อจำกัดของการศึกษา แต่ขณะนี้ได้มีการเปลี่ยนบทบาทการจัดการศึกษาที่ส่วนกลางจะเล็กลง ทำหน้าที่กำกับเชิงนโยบายเพื่อกระจายอำนาจให้จังหวัดเป็นฐานเพื่อเชื่อมโยงจากบนสู่ล่างและล่างขึ้นบน โดยแบ่งการปฏิรูปการศึกษาออกเป็น 77 จังหวัดตามความหลากหลายและบริบทของพื้นที่ ดังนั้นสิ่งที่จังหวัดต้องเคลื่อนตัวครั้งสำคัญคือการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาคนของจังหวัดและการบริหารบุคคล จึงร่วมกับสสส.ในการจัดทำหลักสูตรภูมิสังคมโดยมองถึงคุณลักษณะและสมรรถนะของเด็กในแต่ละบริบทพื้นที่เพื่อนำไปสู่หลักสูตรการปรับใช้เป็นหลักสูตรของสถานศึกษาในทางปฏิบัติ

 

 

ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันเสาร์ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

 


"หมอประเวศ"หนุนปฏิวัติการศึกษาเลิกเอาแต่ท่องจำตำรา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567

การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2567

เปิดอ่าน 3,064 ☕ 5 พ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
เปิดอ่าน 313 ☕ 22 พ.ย. 2567

ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 283 ☕ 22 พ.ย. 2567

สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 534 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 701 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 810 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 3,422 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต
เปิดอ่าน 12,930 ครั้ง

อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ
อาหาร 7 อย่างที่กินแล้วกระปรี้กระเปร่าสุด ๆ
เปิดอ่าน 29,511 ครั้ง

เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+
เคล็ดลับเพื่อผิวสวยใสของสาววัย 20+
เปิดอ่าน 10,210 ครั้ง

กินช็อกโกแลต ดื่มชาและเหล้าไวน์ ช่วยบำรุงสติปัญญาได้
กินช็อกโกแลต ดื่มชาและเหล้าไวน์ ช่วยบำรุงสติปัญญาได้
เปิดอ่าน 17,528 ครั้ง

องค์ประกอบของมัลติมีเดีย
องค์ประกอบของมัลติมีเดีย
เปิดอ่าน 27,580 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ