กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประกาศชื่อสถานศึกษาดีเด่นทางวัฒนธรรม ด้านดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน ระดับภาค พ.ศ.2559 พร้อมมอบ 12 ถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
วันนี้ (1 ส.ค.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดพิธีรับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยกย่องสถานศึกษาดีเด่นด้านดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน ระดับภาค ประจำปี 2559 โดย นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ได้ดำเนินโครงการยกย่องเชิดชูเกียรติสถานศึกษาดีเด่นทางวัฒนธรรม ด้านดนตรีไทย และดนตรีพื้นบ้าน เป็นปีที่ 3แล้ว เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่สถานศึกษา ซึ่งเป็นองค์กรเครือข่ายทางวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญ ต่อการอนุรักษ์ สืบสานถ่ายทอดงานดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงคุณค่าสาระของดนตรี ไทยและดนตรีพื้นบ้าน อันจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและเป็นการปกป้องคุ้มครองมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งสถานศึกษาที่เข้ารับรางวัลในครั้งนี้จะเป็นกำลังสำคัญในการรักษาสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชุมชนและการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมของชาติต่อไป
ด้าน นางสุนันทา มิตรงาม รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) กล่าวว่า สถานศึกษาที่มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมด้านดนตรีไทยและดนตรีพื้นบ้าน ระดับภาค ประจำปี 2559 ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มี 12 โรงเรียน ดังนี้ ภาคเหนือ ระดับประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลหนองบัว (เทพวิทยาคม) จ.นครสวรรค์ ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนหนองบัว จ.นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านบึง จ.นครราชสีมา ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม จ.ขอนแก่น ภาคกลาง ระดับประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลปทุมธานี จ.ปทุมธานี ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนพรหมานุสรณ์ จ.เพชรบุรี ภาคตะวันออก ระดับประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลชุมชนบางบ่อ (ศุภพิพัฒน์รังสรรค์) จ.สมุทรปราการ ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนปราจิณราษฎรอำรุง จ.ปราจีนบุรี ภาคใต้ ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านจันทึง จ.ชุมพร ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และกรุงเทพมหานคร ระดับประถมศึกษา โรงเรียนวัดบึงบัว ลาดกระบัง ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนเทพศิรินทร์ ป้อมปราบศัตรูพ่าย.
ขอบคุณที่มาจาก เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2559 เวลา 18.01 น.