นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในคำสั่ง เรื่อง การคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ยกเว้นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 82 อัตรา จำแนกเป็นอัตราว่าง 44 อัตรา และแทนอัตราเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2559 จำนวน 38 อัตรา โดยกำหนดให้มีการรับสมัคร วันที่ 15-21 สิงหาคม, ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก ภายในวันที่ 26 สิงหาคม, สอบข้อเขียน วันที่ 4 กันยายน, ประกาศรายชื่อ ผู้ผ่านการคัดเลือกภาค ก ที่มีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์ (ภาค ข) วันที่ 9 กันยายน, สอบสัมภาษณ์ วันที่ 18 กันยายน และประกาศขึ้นบัญชี วันที่ 23 กันยายน โดยจะบรรจุแต่งตั้ง ในวันที่ 1 ตุลาคม สำหรับหลักเกณฑ์การ คัดเลือกใหม่ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทั่วไปและกลุ่มประสบการณ์ โดยกำหนดให้บรรจุ แต่งตั้งกลุ่มทั่วไปในสัดส่วน 20% ของตำแหน่ง ที่เปิดรับ กลุ่มประสบการณ์ 80% ของตำแหน่ง ที่เปิดรับ หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ต่อ 4
"ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคล เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้อำนวยการสถานศึกษา ตามมติที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) อนุมัติไว้ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิม โดยเน้นให้กลุ่มผู้ที่มีประสบการณ์ด้านทักษะวิชาชีพได้นั่งบริหารวิทยาลัยมากขึ้นในสัดส่วนถึง 80% โดยการคัดเลือกจะใช้วิธีการประเมินผลจากการปฏิบัติหน้าที่ ประวัติการทำงานที่ผ่านมา และแฟ้มสะสมงานเป็นหลัก ไม่มีการสอบข้อเขียน แต่ยังมีสอบสัมภาษณ์เพื่อดูวิสัยทัศน์ ส่วนกลุ่มทั่วไป จะใช้หลักเกณฑ์เดิมคือ สอบข้อเขียนแบบปรนัย เน้นการศึกษาการวิเคราะห์ และการนำไปใช้ นอกจากนี้ จะดูประวัติการทำงานในเรื่องการบริหารงานในหน้าที่ที่ผ่านมา และสัมภาษณ์เพื่อดูวิสัยทัศน์ประกอบการพิจารณาด้วย" นายชัยพฤกษ์กล่าว
นายชัยพฤกษ์กล่าวต่อว่า การบรรจุจะเรียกกลุ่มประสบการณ์ก่อน 4 คน และกลุ่มทั่วไป 1 คน ตามด้วยกลุ่มประสบการณ์ 4 คน สลับกันไปจนครบ โดยจะขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านการคัดเลือกไว้เป็นเวลา 2 ปี ทั้งนี้ คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการ สถานศึกษา กลุ่มทั่วไป ต้องดำรงตำแหน่งใด ตำแหน่งหนึ่ง ดังต่อไปนี้ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ไม่น้อยกว่า 1 ปี ศึกษานิเทศก์ที่มี ประสบการณ์บริหาร ไม่น้อยกว่า 2 ปี ครูที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการ ส่วนกลุ่ม ประสบการณ์ ต้องดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ดังนี้ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่า รองผู้อำนวยการชำนาญการ ไม่น้อยกว่า 3 ปี และมีประสบการณ์บริหาร ไม่น้อยกว่า 2 ปี เป็นศึกษานิเทศก์ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ มีประสบการณ์บริหารไม่น้อยกว่า 5 ปี หรือเป็นครูที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการพิเศษ ไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีประสบการณ์บริหารไม่ต่ำกว่าหัวหน้าแผนกวิชา ไม่น้อยกว่า 5 ปี
ขอบคุณที่มาจาก มติชน วันที่ 1 สิงหาคม 2559