นายชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะเลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เปิดเผยว่า โครงการกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสภาลูกเสือไทยในปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือ รมว.ศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ดำรงตำแหน่งเป็นประธาน ต่อมาคือผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. รวมถึงลูกเสือชาวบ้าน ซึ่งทั้งสองส่วนถือเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง ขณะที่ส่วนสุดท้ายคือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 15 ตำแหน่ง ที่มาจากการสรรหาและมีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี ซึ่งขณะนี้ได้หมดวาระลงแล้ว ดังนั้นในช่วงต้นเดือนส.ค.ที่จะถึงนี้ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติจะดำเนินการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ โดยคุณสมบัติจะยึดตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ตกลงไว้ว่าหากไม่จำเป็นให้ละเว้นการสรรหาบุคคลที่มีอายุเกิน 70 ปี มาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ แต่หากเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และมีศรัทธาในการพัฒนาวงการลูกเสือไทย ให้กรรมการโดยตำแหน่งพิจารณาเป็นรายกรณีได้
สำหรับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ จำนวน 15 ตำแหน่ง ที่เปิดรับสรรหานี้ ครึ่งหนึ่งต้องมาจากภาคเอกชน เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งแล้ว ภายในปลายเดือนส.ค. จะต้องประชุมกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสภาลูกเสือไทย เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ลูกเสือ พ.ศ.2551 ตามมติครม. ที่ระบุว่ากฎหมายใดที่ใช้มาเกิน 5 ปี ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาทบทวนใหม่ รวมถึงให้นโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาค่ายลูกเสือทั่วประเทศ ซึ่งเรามอบให้จังหวัดดูแลแต่ไม่มีงบประมาณที่จะจัดสรรให้อย่างเป็นระบบ ปัจจุบันมีสภาพทรุดโทรม และพัฒนากิจกรรมต่างๆ ของลูกเสือ ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เช่น หลักสูตรลูกเสือซึ่งมีแต่หลักสูตรของเด็ก ขณะที่ปัจจุบันมีกลุ่มลูกเสือที่ไม่ใช่เด็กนักเรียนด้วย จึงต้องปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสม เพื่อให้ลูกเสือทำหน้าที่บำเพ็ญประโยชน์ได้อย่างแท้จริง
ขอบคุณที่มาและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ข่าวสด ฉบับวันที่ 22 ก.ค. 2559 (กรอบบ่าย)