ไทยรัฐ - เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้เป็นประธานเปิดการประชุมผู้บริหารโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 101 โรง ประจำปี 2559 ที่โรงแรมเชียงใหม่ พลาซ่า ภายใต้หัวข้อ “โรงเรียนไทยรัฐวิทยากับโรงเรียนประชารัฐ” พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ไทยรัฐวิทยากับการศึกษาประชารัฐ” ถึง 11 ยุทธศาสตร์ เพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาชาติ
ทีมการศึกษา ขอนำเสนอบางช่วงบางตอนของการปาฐกถาพิเศษ ซึ่ง พล.อ.ดาว์พงษ์ ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหา อุปสรรค ช่องโหว่ จุดบอด ตลอดจนแนวทางการแก้ไข พร้อมกำหนดระยะเวลาในการเห็นผลสัมฤทธิ์ของทั้ง 11 ยุทธศาสตร์อย่างชัดเจน ซึ่งหน้าจะเป็นประโยชน์ต่องานการศึกษาชาติ
1 ปี เด็กไทยทุกคนเข้าถึงการศึกษา และคุณภาพเท่าเทียม
“...ภายในปี 2560 เราจะทำให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาและคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน มีเวลาน้อยเหลือเกิน พอถึงตอนจะทำนี่ล่ะ มันยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน เช่น อัตราเข้าเรียนในระดับประถมศึกษาของไทยเข้าเรียน 96% นั่นแปลว่า เด็กที่เข้า ป.1 ของไทยหายไป 4% ศธ.ต้องหาว่าเด็กกลุ่มนี้หายไปไหน วันที่ 15 สิงหาคมนี้ จะได้ตัวเลขที่ชัดเจน แล้วจะได้วางแผนแก้ไขปัญหาถูก
...การจัดการศึกษา 15 ปีไม่เก็บค่าใช้จ่ายนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกให้ผมดูว่า ที่ว่าเรียนฟรีนั้น มันไม่ฟรีจริง มีการเก็บเงินกันอยู่ ผมตรวจสอบข้อมูลพบข้อเท็จจริงว่า โรงเรียนนำค่าจัดการเรียนการสอนไปจ่ายค่าสาธารณูปโภค ทำให้เงินตัวนี้ไปไม่ถึงเด็ก จากนี้ไป สพฐ.ต้องคำนวณค่าสาธารณูปโภคแยกมาให้ชัดเจน เพื่อให้โรงเรียนเอาเงินอุดหนุนรายหัวไปใช้กับเด็กให้มากที่สุด ไม่ใช่จ่ายค่าไฟค่าน้ำ เพราะไม่มีที่ไหนเขาทำกัน นอกจากนี้ ผมจะเน้นให้ ศธ.ดูแลเด็กพิเศษอีกด้วย ส่วนเรื่องของคุณภาพนั้น เรามีการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมหรือ DLTV ต่อจากนี้จะเร่งดำเนินการ DLIT คือการเอาไอทีเข้ามาใช้ในการศึกษา นายกฯสั่งให้กระทรวงไอซีทีวางระบบอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศให้เสร็จภายในปี 60 ความเร็วเท่ากับกรุงเทพฯ
ปี 2560 ปรับการสอบ O-NET ให้เป็นที่ยอมรับ
...ผมได้มอบสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ดำเนินการเรื่อง ข้อสอบต้องสะท้อนการเรียนการสอน และต้องจัดทำ Item Card คือ คำอธิบายข้อสอบแต่ละข้อ ว่าผิดถูกเพราะอะไร ต้องมีทุกข้อ ทีมออกข้อสอบต้องละเอียดมากกว่าเดิม เพราะ Item Card จะมีประโยชน์มาก รู้ว่าผิดถูกเพราะอะไร ส่วนสิ่งที่ สพฐ.ต้องทำ คือมีแนวทางออกข้อสอบของตัวเอง เพื่อที่ สทศ.จะได้เห็น และออกข้อสอบให้ตรงกับที่นักเรียนได้เรียนมาจริงๆ
ปี 2560 ซ่อมบ้านพักครูให้แล้วเสร็จทั้งหมด
...ศธ.เรามีบ้านพักครูทั้งหมด 44,000 หลัง ในจำนวนดังกล่าวเป็นบ้านพักสภาพดี ไม่ต้องซ่อม 27,000 หลัง ที่ต้องซ่อม 12,900 หลัง ขณะนี้ได้ซ่อมไปแล้ว 2,300 หลัง ที่เหลือจะซ่อมให้เสร็จภายในปี 2561 แต่นายกฯใจร้อน บอกให้ทำให้เสร็จภายในปี 2560 จัดงบฯให้ซ่อมหลังละ 200,000 บาท
1 ปี ครูครบตามเกณฑ์/2 ปี ครูประจำชั้นครบทุกห้อง/5–10 ปี ครูตรงสาขา
...หากเราจะทำส่วนนี้ให้ได้จะต้องแก้ใน 6 เรื่อง เริ่มจาก 1.การ ปรับเกณฑ์การคิดอัตรากำลัง ให้สอดคล้องกับการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ 2.มีการ เกลี่ยอัตรากำลัง โดยยึดประโยชน์ของราชการเป็นหลัก 3. ต้องมีการ ย้ายและบรรจุทดแทนครูที่เกษียณ อายุให้ทันในเดือนตุลาคม 4.ต้อง จ้างครูให้ตรงกับสาขา ที่ขาดแคลน 5.มีการ บริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก 6.ทบทวนการเปิดโรงเรียนขยายโอกาส แต่ไม่ต้องตกใจ ถ้าอยู่ห่างไกลเราไม่ยุ่ง ขั้นตอนการลดโรงเรียนขนาดเล็ก เรามีแผนหมดแล้ว
2 ปี เด็กท่องจำในสิ่งที่ควรจำ คิดวิเคราะห์ และใช้ในชีวิตประจำวัน
...เรื่องที่ต้องสอนให้ท่องจำ เช่น สูตรคูณ อาขยาน แต่ท่องแล้วเอาไปใช้เป็นหรือไม่ ตรงนี้คือสิ่งที่ ครูต้องสอนเขา จะมาปล่อยให้เด็กท่องแบบนกแก้วนกขุนทองเหมือนที่ผ่านมาทุกเรื่องไม่ได้ ซึ่งตรงกับที่ไทยรัฐวิทยาทำ ผมยอมรับว่าเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยากตรงที่ครูต้องมีเทคนิค แต่ยังไงก็ต้องทำให้ได้
3 ปี นักเรียนใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวิตประจำวัน
...จะเร่งดำเนินการใน 5 เรื่อง 1.สร้างแรงจูงใจ 2.จัดทำแอพพลิเคชั่น 3.พัฒนาครูภาษาอังกฤษ ผ่าน Boot Camp 4.ปรับชั่วโมงเรียน ปรับตารางสอนใหม่ 5.สร้างสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ของเดิมเราสอนภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ 1 คาบ แต่ของใหม่ภาษาอังกฤษวันละ 1 ชั่วโมงเราใช้ 5 รูปแบบ ชั่วโมงที่ 1 ให้เด็กรู้จักใช้เทคโนโลยีภาษาอังกฤษ ชั่วโมงที่ 2 เน้นภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อีกชั่วโมงเป็นเรื่องแกรมม่า อีกชั่วโมงให้เด็กรู้คำศัพท์ อีกชั่วโมงจะเป็นช่วงซ่อมเสริม จะเริ่มทดลองใช้ในเทอม 2 ขอโรงเรียนอย่ากำหนดให้ใช้ภาษาอังกฤษเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า เด็กพูดกันถูกผิดทั้งโรงเรียน แต่ครูเงียบ อย่าให้เป็นแบบนั้น
5 ปี ส่งเสริมครูใช้ศักยภาพในการสอนอย่างเต็มที่
...ขณะนี้กำลังกำหนดแผนผลิตครู 10 ปี แผนตัวนี้จะต้องออกมาอย่างเห็นได้ชัดว่าผลิตอย่างไร ลงที่ไหน เรากำลังแก้ตัวนี้ใหม่ และต้องเสร็จภายในปีนี้ ด้านการพัฒนาครู แนวทางเดิมก็มักจะทำตามหลักสูตรเดิมเหมือนกันทุกปี อบรมแต่ละครั้งก็แจกกระเป๋าอยู่นั่น ต่อไปนี้ผมห้ามแจก ครูที่มาสัมมนาให้เตรียมถุงไปใส่ของเอง จากที่ผมดูเงินที่ใช้ในการสัมมนา เฉพาะ สพฐ. อบรมความรู้ครูเป็นหลักหมื่นล้าน ผมจะทำประโยชน์จากเงินหมื่นล้านนี่ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังพบข้อมูลอีกว่า การอบรมตามแนวทางเดิมบางคนอยู่ใกล้สนามกอล์ฟก็ไปตีกอล์ฟ บางคนก็ไปไหนก็ไม่รู้ มันก็เสียเวลา เสียเงิน เสียทอง แต่ของใหม่ ครูจะรู้ตารางการอบรมล่วงหน้าทั้งปี ปิดเทอมตุลาคมจะมีกี่เรื่อง เมษายนจะมีกี่เรื่อง จะวางตารางให้ชัดเจน
5 ปี สอน STEM ศึกษาครบทุกโรงเรียน
...นี่คือสถานการณ์ของประเทศไทยวิทย์-คณิต PISA เราอยู่ที่ 50 จาก 65 ประเทศ คะแนนโอเคพอถูไถ แต่อันดับยังแข่งเขาไม่ได้ ไทยมีหน่วยงานที่ทำสะเต็มอยู่ 7 หน่วยงาน ไทยเก่งมากเพราะต่างคนต่างทำ ไม่มีประเทศไหนในโลกที่เก่งเท่าไทยอีกแล้ว ดังนั้น เราต้องคิดให้เหมือนกันก่อน ซึ่งขณะนี้ก็พอไปได้แล้ว เป้าหมายสะเต็มปีนี้ จะทำใหม่ทั้งหมด 2,250 โรง รวมของเดิมจะเป็น 2,495 โรงเรียน
10 ปี ผลิตคนตรงความต้องการประเทศ
...เราต้องทราบ demand size ก่อน เราทำประชารัฐ ในคณะ E2 เอกชนจะทำโปรแกรมมาเพื่อสำรวจ demand size ระดับอาชีวศึกษา ซึ่งจะเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ทั้งประเทศ ทั้งนี้ ศธ.จะให้สถานศึกษาเปิดหลักสูตรที่เป็นไปตาม demand size ภายใน 10 ปี ต้อง re–profile มหาวิทยาลัยราชภัฏ อาชีวศึกษาอยู่ในมือพอกำหนดได้ แต่อุดมศึกษายังเหนื่อย ผมจะใช้งบประมาณเป็นตัวบีบ ถ้าคุณผลิตสาขาที่ตรงตามความต้องการผมให้คุณได้ ถ้าไม่งั้นผมไม่ให้
ผลิตคนดีออกสู่สังคม
...เราจะมี โรงเรียนคุณธรรม ซึ่งเรามีตัวอย่างเยอะ มีอยู่แล้ว เราจะทำต่อไปอย่างเข้มข้น มี โมเดลยุวเสถียรคุณ เป็นหลัก ลูกเสือเนตรนารี ก็เป็นส่วนหนึ่ง รวมไปถึงกิจกรรม ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ หรือแม้แต่กิจกรรม ธนาคารขยะ หรือ โรงเรียนโตไปไม่โกง เป็นต้น
แก้ปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบ
...ผมจะไม่ปล่อยให้เกิดการทุจริตในการโยกย้าย ประเภทคิดกิโลละแสนจะต้องหมดไป โดยผมเห็นจังหวัดขอนแก่นมีการตั้งไลน์แอพพลิเคชั่นในกลุ่มครู มีการส่งข้อมูลแจ้งถึงกันว่า คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ได้มีการโยกย้ายครูเสร็จเรียบร้อยแล้ว การพิจารณาเป็นไปตามระบบคุณธรรม ความรู้ ความสามารถ หากครูคนใดได้ย้ายเพราะเสียเงินเสียทองให้แจ้งมายังผู้ว่าราชการจังหวัด ศึกษาธิการภาค และศึกษาธิการจังหวัดได้ โดยมีเบอร์โทร.ไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งผมว่าเป็นวิธีการที่ดี และอยากให้จังหวัดอื่นๆ ทำเหมือนขอนแก่นโมเดล นี้ ส่วนปัญหาการทุจริตที่เกิดจากการใช้ดุลพินิจการลงโทษ หรือแม้แต่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนนั้น ผมเอาจริง ผมต้องโหดร้ายกับคนที่ทำไม่ดี นี่คือการแก้ปัญหาทุจริต ผมต้องรื้อ ก.ค.ศ. รวมถึงนิติกรต้องถูกเพ่งเล็งทั้งหมดว่ามีการรับเงินเพื่อซื้อเวลาหรือไม่ หากยังปล่อยไปแบบนี้อีกคนดีก็จะหมดแรง เพราะเห็นคนไม่ดีเดินอยู่เป็นนายเขาไปอีก แล้วจะมีอะไรไปสู่เด็กได้อีก...”.
โดย ทีมการศึกษา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ที่มา ไทยรัฐ วันที่ 12 ก.ค. 2559 เวลา 05:01 น.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กระทรวงศึกษาธิการ
http://www.moe.go.th/websm/2016/jul/287.html
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
