คอลัมน์: สถานีก.ค.ศ. : เมื่อ 'ก.ค.ศ.' ก้าวสู่ 'อาเซียน' อย่างเป็นรูปธรรม
พินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์
เลขาธิการ ก.ค.ศ.
สวัสดีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้สนใจทุกท่าน จากการที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเมื่อปี พ.ศ.2558 ทำให้ประเทศไทยได้รับประสบการณ์และประโยชน์ในด้านต่างๆ มากมาย เช่น การค้าระหว่างไทยกับประเทศอาเซียนคล่องและขยายตัวมากขึ้น ไทยกลายเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจของประเทศต่างๆ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตมายิ่งขึ้น มีการพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารคมนาคมระหว่างกัน อีกสิ่งหนึ่งที่ประเทศไทย โดยรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญเป็นอย่างมากคือ การพัฒนาการศึกษาของไทย ให้ทัดเทียมและแข่งขันได้กับประเทศสมาชิก ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษาถือได้ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการศึกษา จำเป็นต้องมีการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรกลุ่มนี้ให้มีความรู้ความสามารถยิ่งขึ้นไป ก.ค.ศ.ในฐานะองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความมุ่งหวังในการสร้างระบบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแบบมืออาชีพและเป็นสากล จึงได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
สำนักงาน ก.ค.ศ.จึงจัดให้มีการประชุมอาเซียนเพื่อการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2559 ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพมหานคร โดยได้เชิญผู้รับผิดชอบระดับสูงในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจากกลุ่มประเทศอาเซียน ประกอบด้วย ประเทศบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่าฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาคุณภาพระบบบริหารงานบุคคลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมกับการสร้างความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในกลุ่มประเทศสมาชิก
ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.คาดว่าจะได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ มาพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว จะได้นำผลการประชุมมาบอกกล่าวผ่านคอลัมน์นี้ในโอกาสต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน