ศธ.สั่งรื้อคะแนนเด็กสอบเข้าม.4 เหตุสทศ. ตรวจพบคำตอบภาษาอังกฤษผิด 6คะ แนน กระทบเด็ก 6.5 แสนคน สพฐ.สั่งโรงเรียนดังรับเด็กคะแนนถึงเกณฑ์เข้าเรียนเพิ่มทันที
วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ แถลงข่าวการปรับคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต วิชาภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 3 ข้อ โดยมีรศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เข้าร่วม ว่า ตามที่สทศ.ได้เปิดเผยข้อสอบและเฉลยคำตอบโอเน็ต ปี 2558 วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นม.3 ใหม่ พบว่า มีข้อสอบจำนวน 3 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน มีความผิดพลาด ซึ่งสทศ.ได้ทำการตรวจสอบและพบว่า ข้อสอบทั้ง 3 ข้อผิดจริง โดยข้อที่ 39 เปลี่ยนคำตอบจากตัวเลือกที่ 3 เป็นตัวเลือกที่ 1 ข้อที่ 42 เปลี่ยนคำตอบจากตัวเลือกที่ 3 เป็นตัวเลือกที่ 4 และข้อที่ 47 มีคำตอบที่ถูกต้อง 2 ตัวเลือก คือ ตัวเลือกที่ 3 และตัวเลือกที่ 4 ซึ่งเป็นคำตอบเดิม ดันนั้น ศธ.จึงเห็นชอบให้มีการปรับคะแนนใหม่ โดยมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสถานศึกษาปรับคะแนนในระเบียนแสดงผลการเรียน หรือปพ.1 ของนักเรียน และส่งคะแนนใหม่ให้สทศ. เพื่อคำนวณคะแนนวิชาภาษาอังกฤษใหม่ จากนั้นสทศ.จะส่งคะแนนที่คำนวณได้ ให้ทางโรงเรียนซึ่งใช้คะแนนโอเน็ตเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกเด็กเข้าศึกษาต่อชั้นม.4 เรียงลำดับคะแนนนักเรียนที่สอบเข้าใหม่ทั้งระบบ
“การเรียงลำดับคะแนนใหม่ครั้งนี้ จะส่งผลให้เด็กที่สอบแข่งขันเข้าศึกษาต่อในโรเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง 282 โรงเรียน บางคนมีคะแนนเพิ่มสูงขึ้น และมีสิทธิได้เข้าเรียน ในขณะเดียวกันอาจมีเด็กบางคนที่คะแนนลดลง ซึ่งในส่วนของเด็กที่ได้คะแนนเพิ่มขึ้นและผ่านเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนดก็จะมีสิทธิเข้าเรียนในโรงเรียนดังกล่าว ถึงแม้ว่าตามข้อกำหนดของศธ.จะห้ามรับเด็กเกิน 50 คนต่อห้อง จะเพิ่มเป็น 51 หรือ52 คนศธ. ก็จะอนุโลมให้รับได้ ส่วนเด็กที่มีคะแนนลดลง แต่ได้เข้าเรียนไปแล้วก็จะยกประโยชน์ให้ได้เรียนต่อไป”พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวและว่า ทั้งนี้รศ.ดร.สัมพันธ์ พร้อมที่จะรับผิดชอบ โดยเคยขอลาออกจากตำแหน่งผอ.สทศ. แต่ตนบอกว่า สิ่งที่สทศ.กำลังทำอยู่คือความรับผิดชอบ โดยการแก้ไขปัญหา เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส โดยในการสอบโอเน็ตครั้งต่อไป สทศ. ต้องเพิ่มขั้นตอนการออกข้อสอบและเฉลยคำตอบโดยดูความยากง่าย ว่าถูกต้องตามหลักวิชาการหรือไม่ ขั้นตอนการเฉลยคำตอบ ซึ่งที่ผ่านมาใช้ผู้ออกข้อสอบและผู้เฉลยคำตอบเป็นคนเดียวกัน โดยจะเปลี่ยนเป็นการให้มีทีมผู้เฉลยคำตอบ อีก 1-2 ทีม พร้อมทั้งจัดทำ ไอเท็มการ์ด หรือคำอธิบายเหตุผลการเฉลยคำตอบให้สมบูรณ์ ว่าถูกผิดเพราะอะไร ขณะเดียวกันสทศ.จะต้องดูคุณสมบัติผู้ออกข้อสอบ จะต้องมีความเชี่ยวชาญในวิชาที่ออกข้อสอบจริง และจะให้มีการเปิดข้อสอบและเฉลยคำตอบ ก่อนที่จะส่งคะแนนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมวลผล เพื่อให้มีเวลาท้วงติงและตรวจสอบก่อน
รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า สทศ.ต้องขอโทษ ที่เฉลยข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษม.3 ผิด 3 ข้อ ซึ่งส่งผลกระทบกับนักเรียนจำนวน 656,701 คน ทำให้มีนักเรียนคะแนนลดลง 4 คะแนน 42,943 คน คิดเป็น 6.54% คะแนนลดลง 2 คะแนน 175,671 คิดเป็น 26.75% คะแนนเท่าเดิม 247,980 คน คิดเป็น 37.76% คะแนนเพิ่มขึ้น 2 คะแนน 146,534 คน คิดเป็น 22.31 % คะแนนเพิ่มขึ้น 4 คะแนน 39,608 คน คิดเป็น 6.03% คะแนนเพิ่มขึ้น 6 คะแนน 3,965 คน คิดเป็น 0.60% ซึ่งสทส.จะประกาศผลคะแนนโอเน็ตที่ปรับใหม่ทั้งในระดับรายบุคคล ระดับสถานศึกษา และระดับเขตพื้นที่การศึกษา ทางเว็บไซต์สทศ. www.niets.or.th ภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ หากสถานศึกษาต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0-2217-3800 กด 0 ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2559
ด้านนายการุณ กล่าวว่า สพฐ. จะให้โรงเรียนในสังกัดคำนวณคะแนนนักเรียนในใบปพ.1 ใหม่ทั้งหมด 491,856 คน เพื่อเป็นประวัติของเด็กแต่ละคน ขณะเดียวกันจะให้สถานศึกษาที่ใช้คะแนนโอเน็ตเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกเด็กเข้าเรียนชั้นม.4 ใช้ลำดับคะแนนของเด็กที่สอบเข้าใหม่ และให้ประกาศรายชื่อที่เรียงลำดับใหม่ทางเว็บไซต์ของโรงเรียน ถ้าเด็กและผู้ปกครองสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ หากพบว่ามีชื่อติดในโรงเรียนที่สอบไว้ ก็สามารถติดต่อเพื่อเข้าเรียนได้ทันที โดยจะเร่งดำเนินการให้โรงเรียนที่มีการสอบคัดเลือกเข้าม.4 ประกาศผลให้เร็วที่สุด
ที่มา เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน 2559 เวลา 15.29 น.