ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ในภูมิภาค เมื่อวันที่ 21มี.ค. นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีคำสั่งดังกล่าวออกมาได้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการปรับโครงสร้าง ศธ.ในส่วนกลางมาโดยตลอด ซึ่งล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการเผยแพร่ข้อเสนอโครงสร้างการบริหารราชการของ ศธ.ใหม่ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งพบว่าโครงสร้างใหม่มีการปรับจากโครงสร้างปัจจุบันที่มี 5 องค์กรหลักขึ้นตรงกับ รมว.ศึกษาธิการ ประกอบด้วย สำนักงานปลัด ศธ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) มาเป็น สำนักงานรัฐมนตรี องค์การมหาชน หน่วยงานในกำกับ และ ปลัด ศธ. ขึ้นตรงกับ รมว.ศธ.แทนโดยภารกิจตามโครงสร้างใหม่นี้จะแบ่งการบริหารราชการเป็นระดับ ซึ่งส่วนกลางจะเป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์ นโยบาย กำกับ ติดตามและประเมินผล ระดับภาคกำหนดแผนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ กำกับ ติดตามและประเมินผล และระดับจังหวัดกำกับติดตามประเมินผลระดับสถานศึกษา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับปลัด ศธ.นั้น ตามโครงสร้างใหม่จะทำหน้าที่เป็นซีอีโอ หรือผู้บริหารสูงสุดในส่วนของข้าราชการประจำ ที่กำกับดูแลหน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้ ส่วนกลาง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง กรมวิชาการศึกษา กรมการศึกษาภาคบังคับ กรมเตรียมอุดมศึกษา กรมการศึกษาพิเศษ กรมการศึกษาตลอดชีวิต กรมเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และกรมการอาชีวศึกษา ส่วนระดับภาค ได้แก่ สำนักศึกษาธิการภาค 1-19 สำหรับระดับจังหวัด ได้แก่ คณะกรรมการการศึกษาจังหวัด และ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด โดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดจะมีหน่วยงานภายใต้บังคับบัญชา คือ สำนักงานการศึกษาภาคบังคับจังหวัด/อำเภอ สำนักงานการศึกษาตลอดชีวิตจังหวัด/อำเภอ สำนักงานการศึกษาพิเศษจังหวัด และสำนักงานเตรียมอุดมศึกษาจังหวัด ทั้งนี้ ตามข้อเสนอโครงสร้างการบริหาร ศธ. ใหม่ดังกล่าว พบว่าหลายหน่วยงานไม่ปรากฏอยู่ในโครงสร้าง โดยเฉพาะ 2 องค์กรหลัก คือ สกอ. และ สกศ. รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.).
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และ ข่าวศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 20 มิถุนายน 2559