ได้ข้อสรุป โครงการลดภาระหนี้ครูฯ คาดเริ่มกรกฎาคมนี้ ชี้ผู้เข้าร่วมโครงการกับแบงก์ออมสินต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป ไม่มีหนี้ค้างชำระเก่าใดๆ ทั้งสิ้น ให้กู้ได้ไม่เกินรายละ 7 แสนบาท ดอกเบี้ย 4% ต่อปี ระยะ 20 ปี
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาฯ ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) โดยธนาคารออมสินเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ธนาคารออมสินอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ โดยใช้เงินที่ทายาทจะได้รับในอนาคตมาค้ำประกัน ได้แก่ กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนสมาชิกคุรุสภา (ช.พ.ค.) หรือเงินบำเหน็จตกทอด เพื่อนำเงินสินเชื่อใหม่มาลดภาระหนี้ หรือปิดบัญชีหนี้ที่มีอยู่ปัจจุบัน โดยธนาคารออมสินกำหนดวงเงินสินเชื่อใหม่ให้จำนวนไม่เกินสิทธิ์ทายาทจะได้รับเมื่อผู้กู้เสียชีวิต ส่วนอัตราดอกเบี้ยกำหนดให้ต่ำกว่าดอกเบี้ยปกติของธนาคารออมสิน โดยผู้กู้ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้วงเงินสินเชื่อใหม่ตลอดอายุสัญญา ซึ่ง สกสค.ได้นำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และคณะกรรมการ ช.พ.ค.ได้เห็นชอบการนำเงิน ช.พ.ค.ทั้งประกันเงินกู้แล้ว
นายพินิจศักดิ์กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา สำนักงาน สกสค.ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนธนาคารออมสิน เพื่อพิจารณาร่างบันทึกข้อตกลงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้สินเชื่อจนได้ข้อสรุป และคาดว่าจะสามารถดำเนินโครงการได้ในเดือนกรกฎาคม 2559 นี้ สำหรับคุณสมบัติผู้กู้ที่จะร่วมโครงการนั้น ต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ยื่นกู้ โดยต้องเป็นสมาชิก ช.พ.ค.และกู้สินเชื่อโครงการ ช.พ.ค.ของธนาคารออมสินอยู่ก่อน หากมีหนี้ค้างชำระต้องชำระหนี้ค้างทั้งหมด หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในคราวเดียวกัน และต้องไม่เป็นผู้มีหนี้ค้างชำระกับธนาคารออมสิน รวมทั้งไม่เป็นผู้ที่ธนาคารออมสินหักเงินสนับสนุนพิเศษของสำนักงาน สกสค.ไปชำระหนี้แทน หรือถ้ามีก็ต้องชำระหนี้ให้หมดก่อน นอกจากนี้ต้องไม่ค้างชำระเงินสงเคราะห์รายศพรายเดือน และต้องระบุชื่อผู้มีสิทธิ์รับเงิน ช.พ.ค.ให้เรียบร้อยก่อนยื่นคำขอกู้ด้วย สำหรับวงเงินให้กู้จะไม่เกินรายละ 7 แสนบาท ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับร้อยละ 4 ต่อปี ระยะเวลาการให้กู้อยู่ที่ 20 ปี ยกเว้นกรณีอายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาการกู้แล้วเกิน 75 ปี ให้ลดระยะเวลาการกู้ลงให้รวมแล้วอายุผู้กู้ไม่เกิน 75 ปี
"สรุปก็คือคนที่จะเข้าร่วมโครงการได้จะต้องมีวินัยทางการเงินที่ดี อายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งจากข้อมูลขณะนี้สมาชิกที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีประมาณ 2.8 แสนคน ส่วนเรื่องการทำประกันนั้น ในรายละเอียดของโครงการไม่ได้พูดถึง แต่ทางธนาคารออมสินเสนอว่าควรให้มีการทำประกันสินเชื่อปลอดภัยได้หรือไม่ ซึ่งทาง สกสค.ก็ได้ตอบไปแล้วว่าไม่ขัดข้อง แต่ต้องให้ผู้กู้ตัดสินใจเอง ต้องไม่เป็นเงื่อนไขบังคับให้ทำ เพราะฉะนั้นผู้กู้จะทำประกันหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะประกันกี่ปี เสียเบี้ยประกันจำนวนเท่าไหร่ เพราะจะเป็นประโยชน์สำหรับทายาท แต่ที่สำคัญผู้กู้ต้องรับทราบรายละเอียดทั้งหมดและด้วยความสมัครใจ" ปฏิบัติหน้าที่เลขาฯ สกสค.กล่าว
ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 13 มิถุนายน 2559