สมศ.พร้อมนำร่องประเมินภายนอกรอบ 4 ยึดแนวทางตามนโยบาย ศธ. ไม่เน้นเอกสาร แต่ดูจีแพ็ก ผลการเรียนของเด็กประกอบพิจารณา และยังเตรียมเสนอไอเดียไม่ต้องประเมินทุกแห่งทุกปี โดยเฉพาะสถานศึกษาที่ได้ผลประเมินดีมากซ้อนกันสองปีอาจให้ทำแค่รายงานผลเข้ามาเท่านั้น
ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) นายคมศร วงษ์รักษา รักษาการแทนผู้อำนวยการ สมศ. แถลงข่าวแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษารอบ 4 ว่าการดำเนินการประเมินรอบ 4 จะยึดตามนโยบายรัฐบาลและนโยบายของ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ที่ให้การประเมินภายนอกและภายในมีความสอดคล้องกัน ดังนั้น สมศ.จะใช้ผู้ประเมินและตัวบ่งชี้เดียวกันกับการประเมินภายใน เพื่อให้การประเมินเป็นไปในทิศทางเดียวกันใน 4 มาตรฐานคือ 1.มาตรฐานที่ว่าด้วยผลการจัดการศึกษา 2.มาตรฐานที่ว่าด้วยการบริหารจัดการศึกษา 3.มาตรฐานที่ว่าด้วยการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และ 4.มาตรฐานที่ว่าด้วยการประกันคุณภาพภายใน ขณะเดียวกัน รมว.ศธ.ยังมอบนโยบายด้วยว่าการประเมินจะต้องไม่เน้นดูเอกสาร เพื่อไม่ให้เป็นภาระของสถานศึกษา และไม่อยากให้ดูเฉพาะคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต เท่านั้น แต่ขอให้นำคะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร หรือ GPAX และผลการเรียนของเด็กเป็นรายวิชามาประกอบการประเมินด้วย ดังนั้นในการประเมินรอบ 4 สมศ.จะเน้นการประเมินภาพรวมเชิงคุณภาพ ให้สถานศึกษาประเมินตัวเองตามความเป็นจริง และรายงานผ่านระบบออนไลน์มายัง สมศ. จากนั้น สมศ.จะลงพื้นที่พบปะพูดคุยระหว่างสถานศึกษากับทีมประเมินในลักษณะการประชุม และดูผลสัมฤทธิ์ที่เกิดกับเด็ก ว่ามีพัฒนาการไปในทิศทางที่ดีขึ้น และมีความสุขในการเรียนหรือไม่
รักษาการ ผอ.สมศ.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เดิม สมศ.มีกำหนดจะต้องประเมินรอบ 4 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 แต่รัฐบาลให้เลื่อนออกไปก่อน และดำเนินการตามโรดแมป คือช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 ถึงเดือนมกราคม 2559 เป็นช่วงของการระดมความคิดเห็นและทบทวนตัวบ่งชี้ให้เหมาะสม เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2559 จะเป็นช่วงการดูรายละเอียด การเนินการ และคาดว่าจะเริ่มนำร่องประเมินสถานศึกษาในกรกฎาคม 2559 ประมาณ 8,000 แห่ง ใน 2 ระดับก่อนคือ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับอาชีวศึกษา โดยการสุ่มเลือกสถานศึกษาตามขนาดของสถานศึกษาทุกสังกัด และครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่วนระดับอุดมศึกษาจะต้องรอหารือกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพราะยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องตัวชี้วัดที่ชัดเจน
"เหตุผลที่ต้องมีการนำร่องประเมินก่อนในเฟสแรก เพื่อจะดูว่าตัวบ่งชี้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับนโยบายหรือไม่ เพื่อนำมาปรับปรุงและนำไปใช้ในการประเมินจริงในเฟสถัดไปจนครบ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลเคยตั้งคำถามว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่ สมศ.จะต้องลงไปประเมินสถานศึกษาทุกแห่ง เนื่องจาก สมศ.ทำการประเมินภายนอกมาแล้ว 3 รอบ ทำให้มีข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษาทุกแห่งแล้ว ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าต่อไปอาจไม่จำเป็นต้องลงไปประเมินทุกแห่ง โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลการประเมินในระดับดีมาก 2 รอบ ก็อาจจะขอแค่รายงานการประเมินภายในโดยให้ต้นสังกัดรับรอง ส่วนสถานศึกษาที่ได้รับผลการประเมินในระดับดีก็อาจจะแค่ลงไปดู 2 วัน ส่วนสถานศึกษาที่ได้รับผลประเมินระดับพอใช้ลงมาอาจต้องลงไปดูถึง 3 วัน โดยทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อเสนอของ สมศ. ซึ่งต้องเสนอให้ทางรัฐบาลพิจารณาก่อน" รักษาการ ผอ.สมศ.กล่าว.
ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 10 มิถุนายน 2559