เล็งขยาย "อิงลิชบูธแคมป์" ศธ.อัพเกรดครูทั้งประเทศ
โดย ภูดิศ เชื้อประดิษฐ์
"เราไม่มีเวลาแล้วในเรื่องภาษาอังกฤษของประเทศไทย เราเสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านเรื่องสภาพแวดล้อมแรงจูงใจที่จะใช้ภาษาอังกฤษ เราต้องเริ่มจากศูนย์ในการทำให้เด็กมีความรู้ภาษาอังกฤษ วันนี้ผมเห็นวิธีการสอนของครูเปลี่ยนไป ทำให้ผมมั่นใจว่า ครู 350 คนที่มาเข้าแคมป์ เมื่อออกไปจะได้รับความมั่นใจในการให้ความรู้ภาษาอังกฤษแก่เด็กๆ ได้ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา" พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว
อิงลิชบูธแคมป์การพัฒนาครูแกนนำภาษาอังกฤษ ถือเป็นการอบรมแบบเข้มข้นครั้งแรกในเอเชียที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ครูผู้เข้าอบรมได้รับการขัดเกลา เรียนรู้ถึงยุทธวิธีในการถ่ายทอดความรู้ภาษาอังกฤษจากวิทยากรชาวต่างชาติเจ้าของภาษาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และพร้อมที่จะนำกลวิธีเหล่านั้นมาใช้กับการศึกษาภาษาอังกฤษของประเทศไทย
"นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ได้ติดตามการฝึกอบรมครูภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นครั้งแรกในการอบรมเข้มข้น ได้บทเรียนหลายอย่างที่ครูไทยเราพูดภาษาอังกฤษได้ดี สิ่งที่เขาได้คือ ได้ความมั่นใจ ได้วิธีการสอนใหม่ๆ ได้ทดลองฝึกสอนจริงหลายคนอยากนำความรู้ที่ได้กลับไปใช้เต็มที่ หลายคนบอกว่า รู้สึกว่ามันคุ้มค่าต่อ ชีวิต ทางครูฝึกอบรมต่างชาติก็มีการแนะนำถึงการติดตามต่อ ตามไปดูการเรียนการสอนใน ชีวิตจริงๆ เพราะสอนในที่นี้เป็นการสอนด้วยกันเอง เป็นการสอนของจริงในชีวิตอีกแบบของครู มีครูไทย 28 คน ที่ถูกคัดเลือกเป็นครูเทรนเนอร์ต่อไปในการอบรมครั้งหน้า ผลที่ได้นั้นดีเกินคาดหมาย และต้องได้รับการขยายผลอย่างเร่งด่วน
การดำเนินการอบรมสัปดาห์ที่ 1-2 เป็นการแบ่งกลุ่มครูออกเป็น 15 กลุ่ม จำนวนกลุ่มละ 20-25 คน โดยจะเรียนเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปด้านภาษาอังกฤษ และวิธีการสอนภาษาอังกฤษ เมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ที่ 2 มีการทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ทักษะ 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่านและการเขียน วิทยากรชาวต่างชาติทำการคัดเลือก ครูแกนนำจำนวน 28 คน โดยการพิจารณาจากผลการทดสอบ การสัมภาษณ์ครูพร้อมทั้งเจตคติของครูในการเป็นวิทยากรเพื่อขยายผลต่อไป
ในสัปดาห์ที่ 3 จะเป็นการอบรมจากครูแกนนำและประเมินผลต่อไป
"จิตติมา ดวงมณี" ครูแกนนำ ระดับประถม โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ กล่าวว่า การฝึกทักษะการสอนตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องนำไปใช้ในห้องเรียน เพราะเราเป็นครู ถึงแม้จะมีประสบการณ์การสอนมาหลายปี เมื่อครูทุกคนมาเห็นกระบวนการสอนของวิทยากรชาวต่างชาติ เป็นการปรับกระบวนการเรียนตามความสามารถของผู้เรียน เรื่องของการสอนเราเปลี่ยนแน่นอน มีจุดมุ่งหมายของการสอน กระบวนการสอนแต่ละขั้นจะต้องตอบสนองไปยังจุดมุ่งหมายที่คุณตั้งไว้ ซึ่งครูไทยเราสอนเยอะมาก แต่ไม่รู้ว่าเราต้องการอะไร บางทีเราไม่รู้ว่าเราแจกใบงานเด็กไปแล้วเราต้องการอะไร และได้พัฒนาภาษาทุกคนให้มีความคล่องขึ้น
"วิลาศ คำมีแก่น" ครูแกนนำระดับมัธยม โรงเรียนปทุมวิทยากร กล่าวว่า ความรู้ที่จะไปใช้ในการพัฒนาตัวเองในการเป็นครู การอบรมนี้เป็นการอบรมแบบเข้มข้นจริง มีแนวคิดเชิงปฏิบัติมาก หากมีการปฏิบัติบ่อยครั้งก็จะเกิดความชำนาญ ใน 3 อาทิตย์ที่ผ่านมาทุกคนได้เกิดความชำนาญในการเอาความรู้มาใช้ปฏิบัติจริง การปฏิบัติจริง ฝึกสอนจริง ทุกคนต่างสะท้อนในสิ่งที่เขาเห็นว่า สิ่งที่ดีที่สุดของเราคืออะไร และสิ่งที่ควรพัฒนามากขึ้นเป็นอะไร ทุกคนไม่มีข้อเสีย มีแต่สิ่งที่ควรพัฒนา เพราะฉะนั้นการพัฒนาตนเองแบบนี้เป็นการพัฒนาตนเองอย่างไม่มีสิ้นสุด ซึ่งครูที่เข้าร่วมอบรมครั้งนี้มาด้วยอุดมการณ์เดียวกัน ทำให้การอบรมครั้งนี้เข้มข้นด้วยผู้เข้าอบรมเอง และผู้อบรมที่มีประสบการณ์มากๆ ถือว่ามีประสิทธิภาพมาก ถ้าเรามีจุดมุ่งหมายที่เหมือนกันเพื่อพัฒนาประเทศของเรา พัฒนาโรงเรียนของเรา ซึ่งต้องการพัฒนาคนการเปลี่ยนแปลงคนเราต้องการการอบรมที่มีระยะเวลาขนาดนี้
"สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับผลตอบรับจากครูคือ เมื่อกลับไปจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการสอน จากเดิมที่เคยสอนแบบเรียนรู้ เมื่ออยู่ในแคมป์เขาพบว่าวิธีการสอนที่ถูกต้องควรจะมีลักษณะแบบใด วิธีการสร้างความสนุกคู่กับการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างไร เมื่อไรที่เราทำให้เด็กเล็กไม่กลัวที่จะพูดภาษาอังกฤษ เมื่อนั้นเราจะประสบความสำเร็จ เขาจะกล้าเรียน กล้าพูด กล้าตอบโต้แล้วเก่งขึ้นในอนาคต เราต้องเพิ่มจำนวนเวลาการเรียนภาษาอังกฤษให้แก่เด็กๆ จะมีนโยบายเพิ่มเวลาเรียนภาษาอังกฤษ 1 ชั่วโมงต่อวันเป็น 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งสิ่งนี้กำลังสอดคล้องกับสิ่งที่เรากำลังเตรียมครูอยู่ ในปีนี้ตั้งเป้าการขยายผลพัฒนาครูภาษาอังกฤษไว้ 3,000 คน วันนี้ได้ครูภาษาอังกฤษแล้ว 350 คน ต่อไปจะกระจายออกไปมีจัดการอบรมตามส่วนภูมิภาคต่างๆในประเทศไทย" พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก