Advertisement
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2559 เวลา 10.28 น. ได้นำเสนอข่าวว่า นักวิจัย มช.เจ๋ง ค้นพบสารเซซามิน จาก'งาดำ' ที่รักษามะเร็ง โรคสมอง และโรคข้อเสื่อมกระดูกพรุน ได้เป็นครั้งแรกของโลก รายละเอียดดังนี้
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวทราบว่า ที่ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้วิจัยและค้นพบว่า "งาดำ" ว่ามีสารเซซามิน ที่ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง และช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่เสื่อมได้เป็นครั้งแรกของโลก เมื่อทราบดังนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามข้อมูลจากภาควิชาชีวเคมี ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ อาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การศึกษาวิจัยเรื่องการรักษา และฟื้นฟูสภาพร่างกายของคนไม่ว่าจะเป็นคนปกติ ผู้ป่วยหรือคนที่พักฟื้นจากการเจ็บป่วย ก็มีมาอย่างต่อเนื่องประกอบกับเรื่องของอาหารเสริมในปัจจุบันก็พบว่า มีหลากหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่จะมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ และบางยี่ห้อก็มีการแอบอ้างสรรพคุณต่างๆ มากมาย จนอาจจะเป็นผลเสียต่อผู้บริโภคได้ ดังนั้นทางคณะผู้วิจัยจึงได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว ในเรื่องการดูแลสุขภาพของประชาชน ประกอบกับงานวิจัยที่ได้เริ่มศึกษานี้ ก็อยากจะทำให้นอกเหนือแค่งานวิจัย ที่อยู่บนหิ้ง แต่ต้องการวิจัยและนำมาช่วยเหลือประชาชนได้จริง จึงได้ค้นคว้าหาพืชต่างๆ ในประเทศกระทั่งได้ค้นพบว่า "งาดำ" นั้นมีสรรพคุณมากมาย ตั้งแต่อดีตกว่า 4,000 ปี ก็มีการทานงาดำ กันมาตลอด ไม่เคยมีใครทานงาดำแล้วเป็นโรคจึงได้นำมาวิจัยถึงคุณประโยชน์อย่างแท้จริงว่ามีสรรพคุณอะไรบ้าง
รศ.ดร.ปรัชญา กล่าวต่อไปอีกว่า จากการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนมาทุนวิจัยจากเซเรบอส อวอร์ด สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โครงการวิจัยนวัตกรรมทางเคมี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์ก็ได้เริ่มศึกษาวิจัยมาตั้งแต่ปี 2553 กระทั่งมาประสบความสำเร็จในปีนี้ โดยได้ค้นพบว่าในเมล็ดงาดำ มีสารเซซามิน อยู่ภายในซึ่งสารตัวนี้สามารถที่จะช่วยในการยับยั้งการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์สลายกระดูก ที่ให้เกิดโรคข้อเสื่อม โรคกระดูกพรุน ได้โดยจะเข้าไปทำให้แคลเซียมประสานกับกระดูกเพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของโรคสมอง ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดอุดตันในสมองเส้นเลือดแตก ที่ทำให้เป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยสารเซซามินจะเข้าไปช่วยปกป้องเซลล์ประสาทที่ยังดีอยู่ และช่วยฟื้นฟูเซลล์ประสาทที่เสื่อมสภาพสุดท้ายก็เป็นโรคมะเร็ง ที่ถือเป็นโรคที่เกิดมากเป็นอันดับ 1 ในขณะนี้ซึ่งเซลล์มะเร็งนั้นจะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เพราะมีเส้นเลือดใหม่ที่เกิดขึ้นมาแล้วไปสร้างการหล่อเลี้ยงให้กับเซลล์มะเร็งนั้นๆ จากนั้นก็จะแพร่กระจายไปเรื่อยซึ่งสารเซซามิน ก็จะเข้าไปปกป้องเซลล์พร้อมกับตัดวงจรหรือลดเส้นเลือดใหม่ที่เป็นน้ำเลี้ยงให้กับเซลล์มะเร็งพร้อมกับค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพเซลล์ให้กลับคืนมา
โดยผลการวิจัยในห้องทดลองที่ได้ร่วมกับนักศึกษาปริญญาโท ได้ทดสอบกับไข่ไก่ที่ปกติจากนั้นได้ทำการฉีดเซลล์หรือสารพิษเข้าไป ก็พบว่าไข่ไก่จะเกิดอาการเป็นพิษหรือคล้ายกับการเป็นมะเร็ง จากนั้นก็ทำการฉีดสารเซซามิน เข้าไปก็พบว่าการฟื้นฟูของเซลล์เริ่มกลับคืนมาและได้ทดสอบด้วยการฉีดสารเซซามินเข้าไปในไข่ไก่ปกติ แล้วเมื่อเวลาผ่านไป 6ชั่วโมงถึงฉีดสารพิษ หรือเซลล์มะเร็งเข้าไป ก็พบว่ามีการปกป้องเซลล์ได้มากกว่าไข่ไก่ที่ไม่ถูกฉีดสารเซซามินอย่างเห็นได้ชัด
ต่อมาก็ได้นำเมล็ดงาดำไปทำการผลิตเป็นแบบแคปซูล คล้ายกับรูปแบบอาหารเสริมต่อมาก็ได้ผู้สนใจนำไปทดลองกินดู โดยเป็นผู้ป่วยทั้งโรคสมอง และโรคมะเร็งซึ่งผู้ป่วยโรคสมองบางรายนั้น การรักษาได้ไปถึงที่สุดจากทางแพทย์แล้วและทางแพทย์ได้ให้กับไปพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งก็ได้นำสารสกัดจากเมล็ดงาดำกลับไปทานควบคู่กับยา ก็พบว่าหลังจากผ่านไป 6 เดือน เริ่มกลับมาคุยได้จากการที่กลายเป็นคนอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเจ้าชายนิทรานอนลืมตาแต่ขยับตัวและพูดไม่ได้ ก็กลับมาพูดได้ โดยผู้ป่วยที่เคยนำไปทานมีอายุต่ำกว่า 10 กว่าปี ประสบอุบัติเหตุนอนโรงพยาบาล ลืมตาได้อย่างเดียวขณะนี้เด็กคนดังกล่าวสามารถที่จะไปโรงเรียน และความจำกลับมาเป็นปกติอีกรายเป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองขนาดใหญ่ ต้องผ่าตัดแต่หลังจากที่ได้นำสารสกัดไปทานร่วมกับยา ก็พบว่าเซลล์มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่เป็นก้อนขนาดใหญ่ที่คอก็ค่อยๆ ยุบหายไป โดยไม่ต้องผ่าตัด รายที่สามเป็นหญิงที่เป็นมะเร็งและทำการรักษาด้วยการคีโมมาแล้ว ทำให้ผมร่วงหมดก็ได้ทดลองทานควบคู่กับยาที่ทานปกติ ขณะนี้ก็กลับมาเป็นปกติ และผมขึ้นปกติหมดแล้วและยังมีอีกหลายรายที่ได้ทำการทดสอบและก็ดีขึ้นจึงถือว่างานวิจัยชิ้นนี้ประสบความสำเร็จสามารถนำมาใช้เป็นอาหารเสริมได้โดยไม่มีผลข้างเคียง และยังดีต่อสุขภาพและถือเป็นการค้นพบครั้งแรกของโลกด้วยที่พบว่ามีสารยับยั้งมะเร็งได้ซึ่งขณะนี้ก็ได้ทำการจดสิทธิบัตรไปแล้วทั้งหมด 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซียและอเมริกา และมีการตีพิมพ์วารสารในอเมริกาถึงเรื่องนี้ด้วย ซึ่งสารสกัดจากงาดำไม่ใช่ตัวยาที่ทานเข้าไปแล้วจะรักษาได้หายทันทีเหมือนกับยารักษาโรคแต่ก็เป็นอาหารเสริมที่เข้าไปฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาเหมือนกับปกติได้อีกทั้งงาดำ ก็ยังถือเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่าย เป็นผลผลิตของไทยและเชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับงาดำของไทยได้ในอนาคตอีกด้วย.
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เสาร์ที่ 4 มิถุนายน 2559 เวลา 10.28 น.
ขอบคุณภาพจากเดลินิวส์
ขอบคุณภาพจากเดลินิวส์
ขอบคุณภาพจากเดลินิวส์
ขอบคุณภาพจากเดลินิวส์
Advertisement
เปิดอ่าน 14,807 ครั้ง เปิดอ่าน 31,047 ครั้ง เปิดอ่าน 101,323 ครั้ง เปิดอ่าน 18,464 ครั้ง เปิดอ่าน 103,447 ครั้ง เปิดอ่าน 19,885 ครั้ง เปิดอ่าน 133,628 ครั้ง เปิดอ่าน 17,505 ครั้ง เปิดอ่าน 51,129 ครั้ง เปิดอ่าน 59,474 ครั้ง เปิดอ่าน 38,954 ครั้ง เปิดอ่าน 17,260 ครั้ง เปิดอ่าน 14,800 ครั้ง เปิดอ่าน 102,029 ครั้ง เปิดอ่าน 40,332 ครั้ง เปิดอ่าน 110,744 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 19,885 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 14,471 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 59,474 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 110,744 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 37,852 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 17,310 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 19,404 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 21,399 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,696 ครั้ง |
เปิดอ่าน 39,597 ครั้ง |
เปิดอ่าน 47,770 ครั้ง |
เปิดอ่าน 25,176 ครั้ง |
|
|