29 พ.ค. นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ที่ประชุมสะเต็มศึกษา ที่มีพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีมติเห็นชอบจัดกลุ่มพัฒนาโรงเรียนสะเต็มศึกษา 3 กลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งสิ้น 2,495 โรง ได้แก่ กลุ่มแรก เป็นกลุ่มโรงเรียนนำร่อง 2,250 โรง ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ยังไม่เคยจัดการเรียนการสอนโดยใช้กิจกรรมสะเต็มศึกษามาก่อน คัดจากเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ 225 เขต ๆ ละ 10 โรง ประกอบด้วยโรงเรียนในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลาย ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มโรงเรียนที่มีความพร้อม จำนวน 154 โรงเรียน มีการจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาอย่างเข้มข้น จะทำหน้าที่เป็นศูนย์ให้คำปรึกษาและคำแนะนำการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรสะเต็มศึกษาแก่โรงเรียนอื่น ๆ อาทิ กลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย เป็นต้น และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มโรงเรียนศูนย์สเต็มศึกษาระดับภาค จำนวน 13 โรง ทำหน้าที่เป็นศูนย์ฝึกอบรมให้ความรู้กับบุคลากร ประกอบด้วย ผู้บริหาร ครู ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีเครือข่ายโรงเรียนสะเต็มศึกษาอีก 78 โรงคอยช่วยเหลือการทำงานด้วย
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการ มีข้อเสนอแนะว่าควรจะประสานไปยังสถาบันอุดมศึกษาที่อยู่ในพื้นให้ที่เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับโรงเรียนกลุ่มเป้าหมาย 2,495 โรง ทั้งในด้านการสนับสนุนองค์ความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องของวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ไปประสานกับสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งเบื้องต้น สสวท.ได้แจ้งว่าปัจจุบัน สสวท.ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ 26 แห่ง และมหาวิทยาลัยอื่น ๆ อีก 11 แห่งเป็นเครือข่ายในการพัฒนาสะเต็มศึกษาอยู่แล้ว ซึ่งจากนี้ก็จะไปประสานเพื่อขอความร่วมมือเพิ่มเติม เป้าหมายสำคัญเพื่อให้การจัดการสอนสะเต็มศึกษาเป็นไปอย่างเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพ
"รมว.ศึกษาธิการ มอบโจทย์ให้ทุกฝ่ายไปคิดด้วยว่า เป้าหมายการขับเคลื่อนสะเต็มศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในคราวนี้ ผลสัมฤทธิ์ที่จะต้องเกิดขึ้นมีเรื่องอะไรบ้าง จะมีอะไรเป็นตัวชี้วัด แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ สพฐ.หวังว่าคะแนนผลการประเมินในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment : PISA หรือ พิซ่า จะสูงขึ้น แต่ในเรื่องอื่น ๆ รมว.ศึกษาธิการ ก็ให้ไปคิดถึงผลที่คาดหวังจะให้เป็น อาทิ ช่วยส่งเสริมให้เด็กมีทักษะเกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดไอเดียต่อยอดไปสู่การสร้างนวัตกรรม หรือเส้นทางอาชีพ เป็นต้น และจะนำมาเสนอที่ประชุมครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม สำหรับการพัฒนาหลักสูตรสะเต็มศึกษา คู่มือการจัดการเรียนการสอน ขณะนี้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการจัดอบรมบุคคลากร โดยจะเริ่มขับเคลื่อนการสอนสะเต็มศึกษาอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน 2559 นี้" เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ที่มา แนวหน้า วันอาทิตย์ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 16.27 น.