ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

นักเรียนนักศึกษา คือผู้บริโภคที่จะไม่ได้รับการคุ้มครองจริงหรือ?


ข่าวการศึกษา 27 พ.ค. 2559 เวลา 09:15 น. เปิดอ่าน : 5,645 ครั้ง
Advertisement

นักเรียนนักศึกษา คือผู้บริโภคที่จะไม่ได้รับการคุ้มครองจริงหรือ?

Advertisement

"การศึกษา" มีความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากรของประเทศอย่างมาก แต่การศึกษาของประเทศไทย กลับกำลังมีปัญหา ทั้งความเหลื่อมล้ำในโอกาสการศึกษาที่ไม่ทั่วถึง คุณภาพการสอน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนอยู่ในระดับต่ำ และการส่งเสริมสถานศึกษา ฯลฯ นอกจากนี้ปัญหาระดับนโยบายการขาดความต่อเนื่องเชิงนโยบายยิ่งเป็นสิ่งฉุดรั้งให้คุณภาพการศึกษาไทยอยู่รั้งท้ายอันดับโลก โดยอยู่อันดับ 8 ของอาเซียนด้วยซ้ำ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะต้องมองดูว่าระบบการบริหารการศึกษาของประเทศเป็นเช่นไร ทั้งนี้หากเปรียบเรื่องการผลิตอาหารยังมี อย. เป็นหน่วยงานควบคุมคุณภาพ ดังนั้น ระบบการศึกษาก็เช่นกันย่อมจะต้องมีการตรวจสอบและประกันคุณภาพ เพื่อให้สถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ และสามารถการันตีคุณภาพการศึกษา ต่อผู้บริโภคซึ่งคือ "เยาวชน" ของประเทศ ตลอดจนยังเป็นการการันตีคุณภาพแก่พ่อแม่ผู้ปกครองมั่นใจว่า บุตรหลานของตนได้ศึกษาในสถาบันที่มีมาตรฐานซึ่งไม่เพียงเพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กับประชาชน แต่ยังเปรียบเสมือนเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับสินค้าหรือการบริการที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง

ดังนั้น บทบาทของการประกันคุณภาพการศึกษา คือการประกันความเสี่ยงต่อคุณภาพการศึกษา เพื่อเป็นหลักประกันความเชื่อมั่นของผู้รับบริการ (ผู้เรียน) และผู้รับผลกระทบ (ผู้ปกครอง/ชุมชน/สังคม/ประเทศไทย) ที่จะมั่นใจได้ว่ารูปแบบการบริหารจัดการของสถานศึกษาและวิธีการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาจะมีมาตรฐานและสามารถพัฒนาผู้รับบริการให้มีความรู้ ความสามารถ คุ้มค่ากับที่ได้ส่งให้บุตรหลานไปเรียนและส่งผลต่อการพัฒนาของประเทศชาติ ซึ่งถ้าหากมีการชะลอการประเมินคุณภาพการศึกษาออกไปเป็นระยะเวลา 2 ปีจริง เท่ากับว่าการศึกษาไทย

ก็จะว่างเว้นการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานจากองค์กรอิสระ ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด

ดร.รุ่ง แก้วแดง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การศึกษาไทยมีปัญหาเกิดขึ้นหลาย ๆ อย่าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหาด้านผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน โดยไม่ว่าจะเป็นจากการวัดและประเมินจากภายในและภายนอกประเทศ ก็จะพบว่าอัตราด้านผลสัมฤทธิ์ของไทยอยู่ในระดับต่ำ สาเหตุมาจากเพราะการเรียนการสอนของไทยที่เน้นการท่องจำมากกว่าการคิดวิเคราะห์ เป็นเพราะผู้บริหารระดับสูงอาจไม่มีความเข้าใจถึงปัญหา

ด้านการศึกษาของประเทศอย่างลึกซึ้ง กอปรกับการไม่ต่อเนื่องของนโยบาย โดยพบว่าเฉลี่ยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ จะอยู่ในตำแหน่งเฉลี่ยเพียงละ 8 เดือน ต่อ 1 คน จึงกลายเป็นโจทย์ใหญ่ของประเทศไทยที่มีปัญหาอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

บทบาทของหน่วยงานในการตรวจสอบการศึกษา ในปัจจุบันประเทศไทยมี สมศ.เป็นผู้ดูแลสถานศึกษา

ทั่วประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ ซึ่งจะช่วยให้โรงเรียนได้รู้และเข้าใจในความเป็นจริง จากแต่เดิมใช้ศึกษานิเทศก์ ในการตรวจมาตรฐานการศึกษา แต่ก็พบว่าบทบาทของศึกษานิเทศก์ในอดีตจะเป็นไปในการเยี่ยมเยียน มากกว่าตรวจตราสถานศึกษา ซึ่งตลอดระยะเวลาการทำงานของ สมศ. ก็มีโรงเรียนต่าง ๆ เริ่มตื่นตัวต่อการประเมิน

เพื่อพัฒนาคุณภาพของโรงเรียน และเป็นการยกระดับมาตรฐานการศึกษาให้ดียิ่งขึ้นไป แต่ทว่าก็พบว่ายังมีโรงเรียนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตื่นตัวต่อการประเมินเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา และการปล่อยปละละเลยจากรัฐมนตรี จึงทำให้ปัญหาด้านต่าง ๆ ยังไม่ได้รับการสะสางในทางที่ถูกต้องจนถึงปัจจุบัน

ดร. ชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา กล่าวว่า หน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพการศึกษาอย่าง สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. ถูกสร้างขึ้นในฐานะที่เป็นกลไกเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ตามที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ปี 2542 และตามพระราชกฤษฎีกา พ.ศ.2543 กำหนดว่าสถานศึกษาจะต้องดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาและได้รับการประเมินคุณภาพภายนอก เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีหน่วยงานที่คุ้มครองผู้บริโภคด้านการศึกษา โดย สมศ. เป็นองค์กรอิสระจากภาครัฐ ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณภาพของสถาบันการศึกษาระดับประเทศนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร เช่นเดียวกับประเทศพัฒนาแล้วจะต้องทำเพื่อเป็นการตรวจสอบว่าคุณภาพหรือมาตรฐานรวมทั้งระบบการทำงานของกระทรวงศึกษาทั้งระบบทำงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่

ทั้งนี้ การดำเนินงานของ สมศ. มีกฎหมายรองรับชัดเจนว่าในทุก 5 ปี สถาบันการศึกษาจะต้องได้รับการประเมินอย่างน้อย 1 ครั้ง จึงแสดงให้เห็นว่าผู้ที่เห็นด้วยกับการชะลอการประเมินยังไม่เข้าใจถึงกฎเกณฑ์ กติกา และเงื่อนไขของระบบการประเมินอย่างแท้จริง รวมทั้งไม่เข้าใจในบทบาทหน้าที่ของ สมศ. หรือผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์โดยอ้างว่าการประเมินคุณภาพการศึกษาทำให้เสียเวลาในการเตรียมการเรียนการสอนนั้น แสดงว่ายังไม่เข้าใจในปรัชญาของการประเมินคุณภาพการศึกษา จึงเป็นคำวิจารณ์ที่ไม่สมเหตุสมผล ดังนั้น หากมีการชะลอการประเมินก็อาจจะกระทบต่อระบบการศึกษาไทยได้ ดังนั้น การชะลอการตรวจสอบจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะถือว่าเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ผู้บริโภค หรือเท่ากับเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า การศึกษาไทยในวันนี้มีปัญหาที่สั่งสมมาเยอะแยะมากมายจนกลายเป็นปัญหาระดับประเทศ เกิดจากปัญหาด้านคุณภาพครู และระบบการผลิตครูก็มีปัญหา ส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นทั้งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ซึ่งในการศึกษาแต่ละประเภทก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐานของคนไทยทุกคน เป็นพื้นฐานทางความรู้ที่จะต่อยอดไปในระดับ อาชีวศึกษา หรืออุดมศึกษาต่อไป แต่กลับพบว่าเด็กไทยมีผลสัมฤทธิ์ค่อนข้างต่ำ ไม่ว่าจะเป็นการสอบในระดับสากลอย่าง PISA ก็พบว่าเด็กไทยมีคะแนนอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ หรือแม้แต่การสอบ ONET ก็พบว่าเด็กไทยสอบตกกว่าครึ่ง ดังนั้น การแก้ปัญหาจึงต้องมีความแตกต่างกันออกไป และการที่พยายามรวบเอาหน่วยงานด้านการศึกษาทุกฝ่ายเข้าไว้ที่กระทรวงศึกษาธิการเพียงแห่งเดียวนั้น ถือเป็นแนวคิดที่ล้าสมัยและสมควรที่จะต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน

บทบาทของการตรวจสอบคุณภาพการศึกษานั้นถือเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ทั้งนี้ สมศ.ก็จะต้องมีการปรับปรุงขั้นตอนการประเมิน และเกณฑ์การประเมินก็ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมว่าสามารถทำให้สถานศึกษาได้รับการพัฒนา

ที่แท้จริงหรือไม่ สมศ. ต้องแก้ปัญหาของตัวเองในจุดนี้ให้ได้ และในเรื่องการชะลอการประเมิน ตามหลักการแล้วไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องชะลอการประเมินออกไป ถ้าจะชะลอจริงต้องมีงานวิจัยออกมายืนยัน โดยงานวิจัยนั้นต้องเป็นผลงานวิจัยที่เชื่อถือได้ และมีเกณฑ์ในการวัดและประเมินอย่างถูกต้องแม่นยำ มากกว่าเพียงคำพูด ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. ภาวิช กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ ได้มีผลวิจัยเปรียบเทียบระหว่างประเทศที่มีระบบการประกันคุณภาพ กับประเทศที่ยังไม่ได้ดำเนินการ

ในหลาย ๆ ประเทศ เช่น อังกฤษ อเมริกา เยอรมัน เวียดนาม เป็นต้น พบว่า สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือ ในประเทศที่ไม่มีระบบการประกันคุณภาพจะมีอัตราความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นช้ามากหรือแทบจะมีเพียง 5% ต่อ 5 – 10 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่นำระบบการประกันคุณภาพไปดำเนินการใช้แล้ว 3 ถึง 5 ปี จะมีอัตราการเกิดนวัตกรรมหรือวิธีการใหม่ ๆ เร็วขึ้นกว่าเดิม 3-5% ต่อปี ในประเทศที่ไม่มีระบบการประกันคุณภาพ มักเกิดอาการที่เรียกว่า "หลากหลายความคิดเห็น แต่ไม่เป็นเอกภาพในเชิงพัฒนา" คล้าย ๆ กับว่าแต่ละสถานศึกษาก็มีวิธีการดี ๆ ที่จะพัฒนาคุณภาพตนเอง แต่พอมาดูภาพรวมของประเทศ สิ่งต่าง ๆ ที่ทำดูเหมือนว่าไม่ได้ช่วยผลักดันให้เกิดการพัฒนาประเทศใด ๆ ที่ ชัดเจน เรียกว่า "พัฒนาได้เป็นหย่อม ๆ " ที่สนใจก็พัฒนาไป ที่ไม่สนใจก็เลยตามเลย อยู่ไปวัน ๆ

สำหรับคณาจารย์ นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือประชาชนทั่วไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือเข้าไปที่www.onesqa.or.th

 

ที่มา ThaiPR.net 26 พฤษภาคม 2559 16:48

ขายดีมากครับคุณครู (พร้อมส่ง) เครื่องเคลือบบัตรA4 รุ่นSL200 เครื่องเคลือบกระดาษA4 A3 A5 ABSป้องกันการ์ด

฿368 - ฿999

https://s.shopee.co.th/4VLvxbi7ho?share_channel_code=6


นักเรียนนักศึกษา คือผู้บริโภคที่จะไม่ได้รับการคุ้มครองจริงหรือ?นักเรียนนักศึกษาคือผู้บริโภคที่จะไม่ได้รับการคุ้มครองจริงหรือ?

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว 12/2568 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

ว 12/2568 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดอ่าน 6,429 ☕ 7 เม.ย. 2568

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การเผยแพร่แบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
การเผยแพร่แบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
เปิดอ่าน 541 ☕ 17 เม.ย. 2568

สลช.เร่งทำหลักสูตรการเอาตัวรอดจาก "อุบัติเหตุ-อุบัติภัย" ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้
สลช.เร่งทำหลักสูตรการเอาตัวรอดจาก "อุบัติเหตุ-อุบัติภัย" ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้
เปิดอ่าน 345 ☕ 16 เม.ย. 2568

สพฐ.จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน (ครั้งที่ 2)
สพฐ.จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน (ครั้งที่ 2)
เปิดอ่าน 1,581 ☕ 10 เม.ย. 2568

แนวทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว HOME SCHOOL
แนวทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว HOME SCHOOL
เปิดอ่าน 743 ☕ 10 เม.ย. 2568

ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง รองปลัด ศธ. และ เลขาธิการ ก.ค.ศ.
ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง รองปลัด ศธ. และ เลขาธิการ ก.ค.ศ.
เปิดอ่าน 8,389 ☕ 8 เม.ย. 2568

โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งหมู่ยุวกาชาดและเครือข่ายยุวกาชาด
โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งหมู่ยุวกาชาดและเครือข่ายยุวกาชาด
เปิดอ่าน 651 ☕ 7 เม.ย. 2568

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
7 วิชาชีพที่สามารถย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรีในประชาคมอาเซียน
เปิดอ่าน 37,377 ครั้ง

5 เกมส์ฝึกพูดภาษาอังกฤษ (Speaking Skills) ในห้องเรียน
5 เกมส์ฝึกพูดภาษาอังกฤษ (Speaking Skills) ในห้องเรียน
เปิดอ่าน 66,774 ครั้ง

Multimidia คืออะไร?
Multimidia คืออะไร?
เปิดอ่าน 17,177 ครั้ง

วิธีทำ  น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
วิธีทำ น้ำพริกอ่อง เมนูสุขภาพ
เปิดอ่าน 86,921 ครั้ง

เด็กเก่ง "อุดรพิทยานุกูล" สอบติดมหาลัยยกชั้น 5 ห้องรวด เรียนแพทย์ 44 คน
เด็กเก่ง "อุดรพิทยานุกูล" สอบติดมหาลัยยกชั้น 5 ห้องรวด เรียนแพทย์ 44 คน
เปิดอ่าน 63,757 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ