ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กรี๊ดด!!..มหัศจรรย์..ผิวขาวสวย..ด้วยยางพารา


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,140 ครั้ง
Advertisement

กรี๊ดด!!..มหัศจรรย์..ผิวขาวสวย..ด้วยยางพารา

Advertisement

 

 

...ไม่รู้ว่าตกข่าว...หรือข่าวตก..เอาน่ะ..ไงก็..อาจจะมีคนที่ยังไม่ได้รับการสื่อสารข่าวนี้ก็ได้นะคะ...

          หากว่าทราบแล้ว...ก็ขออภัย..รู้ไว้อีกที...คราวนี้จำแม่นไม่ลืม...

ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกยางพาราจำนวนมาก พื้นที่ส่วนใหญ่ของภาคใต้ล้วนเป็นพื้นที่ปลูกยางพารา
ปัจจุบันได้ขยายไปสู่หลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคเหนือ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำยางพาราในอันดับต้นๆของโลก นักวิจัยไทยมีความพยายามคิดค้นการเสริมสร้างศักยภาพของน้ำยางพาราให้มากไปกว่าการที่จะเป็นแค่น้ำยางพาราอย่างเดียว ถ้าทำได้สำเร็จ เราจะไม่ส่งแค่วัตถุดิบยางพารา แต่เราพัฒนายางพาราไปอีกขั้นเพื่อเพิ่มมูลค่า

หลายคนอาจไม่เชื่อ หากจะบอกว่าอนาคตอันใกล้นี้ น้ำยางพาราจะทำให้เราหน้าขาวได้ เพราะนักวิจัยไทยได้คิดค้นสกัดสารบางอย่างจากน้ำยางพาราที่ทำให้หน้าขาวได้ ที่สำคัญนี่จะเป็นผลิตภัณฑ์หน้าขาวครั้งแรกของโลกที่ทำมาจากธรรมชาติ

รศ.ดร.รพีพรรณ วิทิตสุวรรณกุล ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่
คือหัวหน้าวิจัยงานดังกล่าว ได้เอ่ยถึงที่มาของโครงการวิจัยครีมหน้าขาวจากสารสกัดน้ำยางพาราว่า เริ่มต้นมาจาก นพ.ธงชัย ทวิชาชาติ เจ้าหน้าที่บริหารศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของไทย (TCELS) ที่ให้เอาสารสกัดจากธรรมชาติ

โดยให้ใช้วัตถุดิบในประเทศมาใช้ประโยชน์ เนื่องจากเราเห็นว่าสารสกัดจากธรรมชาตินั้นไม่ก่อให้เกิดพิษไม่เหมือนกับสารสกัดอื่นๆ อย่างที่มีข่าวว่า "ไฮโดรควิโนน" เป็นสารพิษที่ทำให้เกิดใบหน้าด่างขาวมากไป มีพิษต่อเซลล์ แต่ถ้าหากใช้สารจากธรรมชาติโดยปกติจะไม่มีพิษหรือน้อยมาก ถ้าไม่ใช้ในปริมาณมาก หรือความเป็นกรดอย่างแรงก็จะไม่เป็นพิษ

สาเหตุที่ใช้ยางพาราเพราะเห็นว่ามีสารที่ต่อต้านกระบวนการออกซิเดชัน เป็นวัตถุที่ทำให้เกิดเม็ดสี
ทั้งนี้เราได้มีการทดลองกับสัตว์ทดลองในห้องLAB พบว่าใช้ได้ผลและมีฤทธิ์เช่นนั้นจริง แต่ความน่าเชื่อถือก็ยังมีไม่มาก จึงต้องทำการทดลองกับอาสาสมัครต่อไป ดร.รพีพรรณกล่าว

สำหรับผลการทดลองในห้องLAB นั้น ดร.รพีพรรณ เปิดเผยว่า สามารถเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง คือเชื่อแล้วว่าสารสกัดจากยางพารามีสารต้านไม่ทำให้เกิดสีผิวเข้ม ซึ่งกระบวนการที่จะทำให้สีผิวเข้มนั้นมี 2 กระบวนการ

โดยสารที่สกัดมาสามารถยับยั้งได้ คือ
1.การยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี
2.ไม่ให้เกิดการขนถ่ายของเม็ดสี อย่างไรก็ตามทั้งหมดยังอยู่ในช่วงของการทดลอง แต่คาดว่าประมาณ 2 เดือนน่าจะทราบผลที่แน่ชัด

ส่วนผลข้างเคียงนั้น จากการทดลองกับสัตว์อื่นที่นอกจากหมูพื้นเมืองที่มีผิวคล้ายมนุษย์มากที่สุดแล้ว
ก็พบว่าไม่เกิดการแพ้ใดๆ อย่างในการทดลองกับกระต่ายที่มีผิวแพ้ง่าย ก็ไม่เกิดการแพ้ ในหนูเมื่อให้รับประทานก็ไม่ตาย จึงเชื่อว่าผลข้างเคียงที่จะทำให้เกิดการแพ้นั้นน่าจะไม่เกิดขึ้น ส่วนระยะเวลาที่จะเห็นผลจากการทดลองกับสัตว์ ใน 8 สัปดาห์ก็สามารถเห็นผลได้ชัดเจนแล้ว แต่ในมนุษย์นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับเซลล์ผิวของแต่ละบุคคลซึ่งต่างกัน ในคนผิวขาวซึ่งมีเม็ดสีน้อยก็จะได้ผลเร็วกว่าผู้ที่มีสีผิวคล้ำ ระยะเวลาจึงไม่แน่นอนซึ่งต้องพิสูจน์ต่อไป

ขณะเดียวกันนอกเหนือจากคุณสมบัติในการรักษาใบหน้าที่หมองคล้ำแล้ว ยังอาจใช้ร่วมกับส่วนอื่นๆของร่างกายได้ด้วย โดย ดร.รพีพรรณ ระบุว่า เราอาจใช้ร่วมกับส่วนอื่นๆได้ แต่โดยเบื้องต้นเราทำออกมาเป็นครีมทาหน้า


ซึ่งต่อไปก็อาจเป็นสบู่ และอื่นๆ คือสามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย แต่ก็ต้องทำการทดลองต่อไปอีก สำหรับการรักษาอื่นๆ เช่น สิวหรือฝ้า สามารถใช้ได้ผลหรือไม่นั้น สำหรับฝ้าก็จัดอยู่ในแผนของการวิจัยของเราด้วย แต่เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละบุคคลเหล่านั้นจะต่างจากคนปกติทั่วไป เราจึงต้องร่วมกับแพทย์ผิวหนังให้ทดลองกับคนไข้ที่มีฝ้ากระด่างดำว่า ได้ผลอย่างไร เป็นแผนที่เราจะดำเนินต่อไปจากนี้

การวิจัยของเราได้รับทุนสนับสนุนจาก TCELS ประมาณ 5 ล้านบาท โดยทำการวิจัยร่วมกันหลายฝ่ายจากนักศึกษาปริญญาเอกและนักวิจัยอื่นๆมากมาย
คู่แข่งของเราในต่างประเทศก็มีมากอย่าง มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เพราะเขาก็มียางพารามากเช่นกัน จึงไม่อาจเปิดเผยได้มากต้องรอในเรื่องของสิทธิบัตรต่อไป


แต่โดยสรุปคือ แผนการดำเนินงานของเราร่วมกับ TCELS คือ ทดสอบประสิทธิภาพในห้องปฏิบัติการ ผลิตในระดับกึ่งอุตสาหกรรม ทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัคร ซึ่งเรากำลังอยู่ในขั้นตอนนี้ หลังจากนั้นจึงจะผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อจัดจำหน่ายต่อไป”ดร.รพีพรรณเอ่ยถึงการดำเนินงาน


ด้าน นพ.ธงชัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดครีมหน้าขาวในประเทศไทยมีมูลค่าถึงปีละ 25,000 ล้านบาท
การค้นพบสารสกัดจากน้ำยางพาราที่มีคุณสมบัติลดความเข้มข้นของสีผิวจะช่วยเสริมศักยภาพยางพาราในบ้านเราได้

“ประเทศไทยมียางพาราจำนวนมากและส่งออกไปทั่วโลก ทั้งนโยบายรัฐบาลยังส่งเสริมการปลูกยางพาราในหลายๆพื้นที่ ทำให้เรามีวัตถุดิบในด้านนี้เหลือเฟือ ขณะเดียวกันการค้นพบตรงนี้ยังช่วยต่อยอดศักยภาพของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี คาดว่าภายใน 6 เดือน ไทยจะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นครั้งแรกของโลกในการช่วยลดความเข้มข้นของสีผิว ด้วยสารสกัดที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่สารปรุงแต่ง”

นพ.ธงชัย ระบุถึงการทำงานของ TCELS ร่วมกับนักวิจัยว่า TCELS ได้บรรจุโครงการครีมหน้าขาวจากน้ำยางพาราไว้เป็นโครงการที่สำคัญ จุดเด่นของโครงการนี้คือ เป็นการสกัดจากน้ำยางพาราที่หาได้ง่ายและมีราคาถูก ซึ่งแก้ปัญหาที่ต้นทางคือยับยั้งการขนถ่ายเม็ดสีขึ้นสู่ผิวหนัง ไม่ก่อให้เกิดฝ้าเหมือนผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาด ทั้งยังมีคุณสมบัติลดการอักเสบของผิวหนังด้วย




แหล่งที่มา : Health Today

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 10 เม.ย. 2552


กรี๊ดด!!..มหัศจรรย์..ผิวขาวสวย..ด้วยยางพารา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

สุดยอด......อาหารล้างพิษ

สุดยอด......อาหารล้างพิษ


เปิดอ่าน 7,131 ครั้ง
คำถาม

คำถาม


เปิดอ่าน 7,133 ครั้ง
คำถามที่ได้รับคำตอบแล้ว

คำถามที่ได้รับคำตอบแล้ว


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
แฟชั่นสุดคลาสสิก 10 อันดับ

แฟชั่นสุดคลาสสิก 10 อันดับ


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
วิญญานที่ 5 ของคนอีสาน..!!

วิญญานที่ 5 ของคนอีสาน..!!


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
การปฏิรูปการศึกษาไทย

การปฏิรูปการศึกษาไทย


เปิดอ่าน 7,183 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

>>>โปรแกรมที่ลงแล้วต้องใช้ตลอดชีวิต<<<

>>>โปรแกรมที่ลงแล้วต้องใช้ตลอดชีวิต<<<

เปิดอ่าน 7,132 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
   "ครูภาษาเพื่อชีวิต"    รู้จำรู้จักรู้รักคุณค่าภาษาเรา
"ครูภาษาเพื่อชีวิต" รู้จำรู้จักรู้รักคุณค่าภาษาเรา
เปิดอ่าน 7,133 ☕ คลิกอ่านเลย

สมาธิ..บนขวดแก้ว
สมาธิ..บนขวดแก้ว
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย

แผนที่ชีวิตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แผนที่ชีวิตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

รักษาโรคพยาธิด้วยมะเกลือ
รักษาโรคพยาธิด้วยมะเกลือ
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลงานของนายภูมิ
ผลงานของนายภูมิ
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

3 คาถาของคนทำงาน โดนจริง ๆ...@0@...
3 คาถาของคนทำงาน โดนจริง ๆ...@0@...
เปิดอ่าน 7,149 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
เปิดอ่าน 20,997 ครั้ง

นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
นวดกดจุดบนใบหน้า ทางเลือกแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
เปิดอ่าน 14,125 ครั้ง

การศึกษาเท่านั้นที่ทำให้ประเทศเจริญ : โดย สุกรี เจริญสุข
การศึกษาเท่านั้นที่ทำให้ประเทศเจริญ : โดย สุกรี เจริญสุข
เปิดอ่าน 15,960 ครั้ง

โลกนี้มีกี่ภาษา
โลกนี้มีกี่ภาษา
เปิดอ่าน 58,395 ครั้ง

ไม่ฟัง ไม่ได้แล้ว "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ " ทำไมประเทศไทย เปลี่ยนไม่ทันโลก ?
ไม่ฟัง ไม่ได้แล้ว "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ " ทำไมประเทศไทย เปลี่ยนไม่ทันโลก ?
เปิดอ่าน 26,707 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ