ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ถอดบทเรียนต่างแดน พัฒนา ร.ร.เริ่มจากภายใน


ข่าวการศึกษา 21 พ.ค. 2559 เวลา 08:13 น. เปิดอ่าน : 10,883 ครั้ง
Advertisement

ถอดบทเรียนต่างแดน พัฒนา ร.ร.เริ่มจากภายใน

Advertisement

สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง "การพัฒนาคุณภาพภายในสถานศึกษา" ด้วยการหยิบยกกรณีศึกษาจากประเทศที่ประสบผลสำเร็จมาเป็นตัวอย่างสำหรับประยุกต์ใช้ในประเทศไทย

ที่เริ่มจากการพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนนานาชาติซึ่งมี "จูเลียน ไวท์ลีย์" หัวหน้าผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติภูเก็ต อคาเดมี มาเล่าถึงจุดเด่นของโรงเรียนนานาชาติที่มีเครือข่ายใน 56 ประเทศว่า วิธีคิดคือจะทำอย่างไรให้สามารถควบคุมคุณภาพเครือข่ายโรงเรียนเพราะระบบประกันคุณภาพที่ ร.ร.นานาชาติภูเก็ต อคาเดมีใช้ ได้แก่

1.การตรวจเยี่ยมหลักสูตรของอังกฤษในต่างประเทศ เพื่อช่วยโรงเรียนพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพ เน้นการใช้แบบสอบถาม การประเมินตนเอง การสร้างมาตรฐาน และตัวชี้วัดร่วม รวมถึงการตรวจเยี่ยมและการเผยแพร่รายงานสู่สาธารณะ

2.ระบบรับรองมาตรฐานการศึกษาของสภารับรองมาตรฐานการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาคุณภาพผ่านกระบวนการตรวจสอบตนเองอย่างเข้มงวด และการประเมินจากภายนอก

3.การวัดประเมินการเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเอง เป็นวิธีการประเมินในอนาคตที่เน้นการเปลี่ยนถ่ายการเรียนรู้ และให้ค่าการประเมินในหลายมิติ เช่น ความพยายามในการสอนของครู หรือความพยายามในการเรียนของผู้เรียน มากกว่าการดูเพียงคะแนน

"ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการประเมินภายในด้วยวิธีใด สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มจากการพัฒนาร่วมกันด้วยความสมัครใจ หากคิดเรื่องการพัฒนาโรงเรียนแล้วจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน เนื่องจากแต่ละโรงเรียนไม่จำเป็นต้องมีเป้าหมายเหมือนกัน แต่สุดท้าย ต้องนำการประเมินมาใช้ประโยชน์เพื่อสนับสนุนการทำงาน"

ขณะที่ "จิมมี่ ทัน" นักการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการประเทศสิงคโปร์บอกว่า สิงคโปร์ใช้ระบบ 4P ประกอบด้วย P-Perpose เป็นการสร้างจุดมุ่งหมายร่วมระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ปกครอง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ P-People ที่จะต้องสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้รับผิดชอบตามบทบาท เพื่อนำสู่เป้าหมายและความคาดหวังร่วมกัน นอกจากนั้น ยังครอบคลุมถึงกระบวนการ P-Process ที่สะท้อนถึงการตรวจสอบ และการยืนยันความถูกต้อง

ส่วน P ตัวสุดท้ายคือ Product หรือผลิตผล อันหมายถึงเน้นการรายงาน แผนการพัฒนาโรงเรียนและการติดตาม ซึ่งต้องอาศัยการขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะมุมมองจากคนภายนอกระบบการศึกษาบนฐานข้อมูลจริง สิ่งสำคัญจะต้องชี้ชัดว่าเป้าหมายร่วมกันจากทุกฝ่ายคืออะไร เพื่อนำไปสู่การวางแผน และต้องส่งผลต่อนักเรียน ในส่วนการประเมินจากส่วนกลางไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือลบ ต้องไม่ทำให้ผู้บริหารหรือครูหลุดจากหน้าที่หลักคือการจัดการเรียนการสอน"

สำหรับมุมมองจากประเทศไทย"ดร.ดิลกะ ลัทธพิพัฒน์" นักเศรษฐศาสตร์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จากธนาคารโลก นำเสนอมิติความเหลื่อมล้ำด้านการจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษาว่าประเทศไทยขาดประสิทธิภาพในการจัดการ ทำให้ประสบปัญหาความเหลื่อมล้ำในการจัดสรรทรัพยากรระหว่างโรงเรียนชนบทและเขตเมือง ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ตกต่ำ

"เราต้องใช้ครูเพิ่มขึ้นถึง 108,000 คนเพื่อจัดสรรให้ได้ครบทุกห้องเรียน ดังนั้น จึงต้องสร้างรูปแบบการจัดเครือข่ายโรงเรียนใหม่ เพราะโรงเรียนขนาดเล็กมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้น อันเนื่องมาจากประชากรเกิดใหม่ลดลง โดยปัจจุบันมีโรงเรียนขนาดเล็ก 19,864 แห่งที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คนต่อชั้นเรียน และตั้งอยู่ในระยะการเดินทางไม่เกิน 20 นาทีจากโรงเรียนอื่น รวมถึงยังมีโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่มีความจำเป็นต้องคงไว้อีก 2,921 แห่ง"

"ดร.ดิลกะ" เสนอว่า จุดจัดการที่สำคัญคือการพัฒนาโรงเรียนขนาดกลาง 4,514 แห่ง และโรงเรียนขนาดเล็กที่ไม่ห่างไกลอีกจำนวน 3,124 แห่งให้เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพ ซึ่งจะกระทบต่อผู้เรียนถึง 1.59 ล้านคน โดยควรพัฒนาให้เป็นโรงเรียนศูนย์กลางที่มีคุณภาพ มีการจัดสรรทรัพยากรและครูให้เพียงพอ และจัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติมสำหรับค่าเดินทาง รถรับส่ง หรือการสอนพิเศษเพิ่มเติมแก่นักเรียนที่มาจากต่างโรงเรียน พร้อมกับมีการวางแผนติดตามประเมินผลในระยะยาว

เพื่อยกระดับคุณภาพสถานศึกษาให้มีความทันสมัยเสียที 

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ วันที่ 19 พฤษภาคม 2559


ถอดบทเรียนต่างแดน พัฒนา ร.ร.เริ่มจากภายในถอดบทเรียนต่างแดนพัฒนาร.ร.เริ่มจากภายใน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เปิดอ่าน 665 ☕ 23 พ.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 768 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 1,107 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งศึกษานิเทศก์ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 210 ☕ 23 พ.ย. 2567

หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา และที่แก้ไขเพิ่มเติม
เปิดอ่าน 665 ☕ 23 พ.ย. 2567

นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569
เปิดอ่าน 3,076 ☕ 22 พ.ย. 2567

ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
เปิดอ่าน 644 ☕ 22 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
เปิดอ่าน 8,780 ครั้ง

กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
กิจกรรมไขปริศนาทางวิทยาศาสตร์ตรงตามกลุ่มสาระ
เปิดอ่าน 26,899 ครั้ง

ทำไมขนมโดนัทจึงมีรู
ทำไมขนมโดนัทจึงมีรู
เปิดอ่าน 11,819 ครั้ง

กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)
เปิดอ่าน 22,055 ครั้ง

กระเทียม....เปี่ยมคุณค่า
กระเทียม....เปี่ยมคุณค่า
เปิดอ่าน 16,909 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ