พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักและคณะทำงาน รมว.ศึกษาธิการ ในการจัดทำ "ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (Key Performance Indicator : KPI) ของผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) และศึกษาธิการภาค (ศธภ.)" เมื่อวันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2559 ที่ห้อง MOC
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่ได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดนี้ จัดทำร่างตัวชี้วัดสำหรับประเมินผลการปฏิบัติงานของ ผอ.สถานศึกษา, ผอ.สพท., ศธจ., กศจ. และ ศธภ.นั้น คณะทำงานได้นำร่างกรอบตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานของทุกตำแหน่งมานำเสนอ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติ 2) ด้านอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ (Job Description) 3) ด้านคุณลักษณะและสมรรถนะการบริหารงาน
ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว มอบให้แต่ละองค์กรหลักไปจัดทำรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติม (Key Activity) ในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งร่วมปรับปรุงตัวชี้วัดความสำเร็จ (Key Performance) บางตัวให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพราะในฐานะผู้ปฏิบัติ จะรู้ลึกรู้จริงในแต่ละเรื่อง และในการประเมินควรจะต้องรับฟังผู้รับการประเมินด้วย จากนั้นให้นำกลับมาเสนอต่อที่ประชุมภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง
นอกจากนี้ ได้ย้ำถึงการประเมินผลการปฏิบัติงานทั้ง 3 ส่วนด้วยว่า ต้องเป็นการประเมินที่ใช้กระดาษให้น้อยที่สุดและไม่เป็นภาระมากนัก แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องสะท้อนความจริง คือจะต้องออกแบบให้มีความเป็นวิทยาศาสตร์ให้มากที่สุด และนำไปใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนและกำกับการปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการประเมินด้านการขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ได้เน้นให้พิจารณาถึงขับเคลื่อนเรื่องตามนโยบายที่สำคัญ อาทิ นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้, การแก้ปัญหานักเรียนออกกลางคัน, การยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษ, การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักครู, โครงการประชารัฐ เป็นต้น และหากมีการเพิ่มเติมนโยบายใหม่ๆ ก็จำเป็นต้องมีการปรับปรุงตัวชี้วัดอย่างต่อเนื่องต่อไปด้วย โดยขอให้ดำเนินการจัดทำตัวชี้วัดให้เสร็จสมบูรณ์ภายในกลางปี 2559 เพื่อจะประชุมชี้แจงร่วมกับผู้ที่รับการประเมินเพื่อสร้างการยอมรับต่อไป
รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการเกลี่ยอัตราครูช่วงรอยต่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคด้วยว่า ต้องการให้ดำเนินการเกลี่ยและย้ายครูให้มีความรวดเร็วมากขึ้น จึงได้สั่งการให้นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค เร่งจัดประชุมพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (อกศจ.) ทั้ง 3 คณะ ได้แก่ อกศจ.ที่รับผิดชอบงานทางด้านวินัย, อกศจ.ด้านวิทยฐานะและสิทธิประโยชน์, อกศจ.ด้านการบรรจุแต่งตั้งและโยกย้าย ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองการเกลี่ยและย้ายครูก่อนนำเสนอ กศจ. ซึ่งขณะนี้มีจังหวัดที่ส่งรายชื่อมาครบถ้วนแล้ว 39 จังหวัด โดยไม่ต้องรอให้ครบทุกจังหวัด
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาการขาดแคลนครูยังคงต้องมีบ้างในช่วงของรอยต่อนี้ แต่คงไม่นานนัก ดังนั้นหากจังหวัดใดยังไม่ได้ส่งรายชื่อของ อกศจ. ขอให้เร่งดำเนินการ เพื่อจะได้เร่งจัดประชุมพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
นวรัตน์ รามสูต, บัลลังก์ โรหิตเสถียร : สรุป/รายงาน
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี : ถ่ายภาพ
ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 17 พฤษภาคม 2559