สกสค.ขอรายละเอียด “ออมสิน” กรณีผู้กู้ผิดนัดชำระ
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) มีมติเห็นชอบดำเนินการโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามข้อเสนอของธนาคารออมสิน ที่ใช้เงิน ช.พ.ค.ซึ่งทายาทจะได้รับในอนาคต เมื่อสมาชิกเสียชีวิตมาค้ำประกัน การอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่เพิ่มเติมให้แก่ผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือรีไฟแนนซ์หนี้ แต่มีเงื่อนไขขอให้ดำเนินการนำร่องกลุ่มผู้กู้ที่มีวินัยทางการเงินที่ดีก่อน ซึ่งตนได้ยื่นข้อเสนอดังกล่าวให้ ธ.ออมสินแล้ว โดยโครงการลดภาระ หนี้ครูจะทำเป็นระยะ
เริ่มจากกลุ่มแรก คือ กลุ่มผู้กู้เงิน ช.พ.ค.ที่มีวินัยทางการเงินที่ดี ไม่เคยค้างชำระค่างวดเงินกู้ หรือเคยค้างแต่ชำระหมดแล้ว เพื่อให้กำลังใจผู้ที่มีวินัยทางการเงิน เนื่องจากภาระดอกเบี้ยจะลดจากร้อยละ 6.5 เป็นร้อยละ 4 ระยะที่ 2 เป็นกลุ่มผู้กู้ ช.พ.ค.ที่ผิดนัดชำระบ้างแต่ไม่มาก และกลุ่มที่ผิดนัดชำระหนี้ 3 งวดขึ้นไป ซึ่ง ธ. ออมสินแจ้งว่า มีผู้กู้ที่อายุไม่ต่ำกว่า 50 ปีมีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการประมาณ 280,000 คน เฉลี่ยยอดหนี้ประมาณรายละ 1 ล้านบาท
เลขาธิการ สกสค.กล่าวอีกว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือทวงถามคำตอบจาก ธ. ออมสิน กรณี สกสค.เคยมีหนังสือขอทราบรายละเอียดการติดตามทวงเงินกรณีการผิดนัดชำระค่างวด ซึ่งในเงื่อนไขและข้อตกลงระบุว่า ผู้กู้ผิดนัดชำระงวดที่ 1-3 ธ.ออมสินและ สกสค. ต้องทำอะไรบ้าง อาทิ ค้างงวดที่ 1 ธนาคารต้องมีหนังสือทวงถามไปยังผู้กู้ งวดที่ 2 นอกจากแจ้งผู้กู้แล้วต้องแจ้งผู้ค้ำประกันรับทราบด้วย เพราะถ้ามีหนังสือทวงถามตามนี้ เชื่อว่าการผิดนัดงวดที่ 3 น่าจะน้อย แต่ธนาคารยังไม่ได้ส่งหลักฐานดังกล่าวตอบกลับมาที่ สกสค. จึงยังไม่แน่ใจว่าทั้งสองฝ่ายได้ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างไร ทั้งนี้ ถ้าพบว่า ธ.ออมสินไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อตกลงดังกล่าวจะเสนอบอร์ด สกสค. พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเงินที่ธนาคารหักเงินจากกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษโครงการ ช.พ.ค. เพื่อชำระแทนผู้ที่ค้างชำระติดต่อกัน 3 งวด เป็นเงินกว่า 6,000 ล้านบาท.
ที่มา ไทยรัฐ วันที่ 11 พฤษภาคม 2559