สงสารเด็กไทย...หากพี่น้องคนไทยได้ติดตามข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีที่ "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" ได้จัดทำข้อเสนอในการแก้ปัญหานโยบายการศึกษา ปัญหาโครงสร้างการศึกษาระบบจัดการศึกษา รวมถึงปัญหาคุณภาพผู้เรียน โดยขอให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2557 ในการแก้กฎหมายการศึกษา 15 ฉบับ โดยไม่ต้องผ่านที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
อาทิ ให้จัดการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ตั้งแต่ก่อนอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ให้แยกสายสามัญและสายอาชีวศึกษา ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เสนอตั้งสถาบันครูศึกษาเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตครูที่มีศักยภาพสูง พร้อมทั้งการันตีเงินเดือนครูต้องไม่ต่ำกว่าแพทย์
ไม่เพียงเท่านั้น “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ยังเสนอให้เด็กที่จบป.6 แต่ได้เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.5 เมื่อเข้าเรียนม.1 จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด หากไม่มีก็จะต้องกู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อให้เด็กตั้งใจเรียนและทำคะแนนให้ดี
เด็กไทยยังโชคดีที่ “บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ไม่บ้าจี้ ตาม “ผู้ตรวจการแผ่นดิน”
พร้อมแจกแจงผ่านสื่อว่า “การเสนอเปลี่ยนการศึกษาภาคบังคับจากป.1 ถึง ม.3 เป็นก่อนอนุบาลหรือปฐมวัยถึงป.6 นั้น ขณะนี้ในร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับลงประชามติ) มาตรา 54 ระบุว่ารัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปีตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันการศึกษาภาคบังคับถึงชั้นม.3 ยังกลัวเด็กจะหลุดออกนอกระบบ หากบังคับแค่ป.6 มีโอกาสที่เด็กออกกลางคันมากขึ้น ส่วนข้อเสนอให้เด็กที่จบป.6 แต่เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.5 เมื่อเข้าเรียนม.1 ต้องจ่ายเทอมนั้น ต้องไปถามสังคมเองว่าเห็นด้วยหรือไม่”
เฮ้อ!! การศึกษาไทยไปไม่ถึงไหน ส่วนหนึ่งก็เพราะลิ้วล้อ “ไอ้โม่ง” อยากให้ “คนไทยโง่ดักดานเพื่อการปกครองง่ายขึ้น” คนเหล่านี้แทรกซึมอยู่ทุกวงการไม่ยกเว้นแม้วงการสื่อ คนไทยควรลุกขึ้นมาทวงสิทธิทางการศึกษาบ้างเน้อ!!
------------------
(เปิดม่านการศึกษา : 2 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม)
ที่มา คม ชัด ลึก วันที่ 2 พฤษภาคม 2559