นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสคัดค้านการปรับเปลี่ยนสถานภาพจากข้าราชการครูไปเป็นพนักงานราชการ ซึ่งระบุอยู่ในร่างกรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2574 ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ไม่ได้จัดทำโดยตรง แต่มีคณะอนุกรรมการยกร่างชุดต่างๆ ร่วมดำเนินการ ซึ่งการเปลี่ยนสถานภาพครูเป็นพนักงานราชการนั้น เสนอโดยคณะอนุกรรมการยกร่างแผนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยต้องผ่านการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศก่อน อย่างไรก็ตามในส่วนของข้อเสนอปรับเปลี่ยนสถานภาพครูเป็นพนักงานราชการนั้น โดยหลักการครูและผู้บริหารโรงเรียนทั่วไปยังมีสถานภาพเป็นข้าราชการเช่นเดิม แต่พนักงานราชการจะเกิดขึ้นในโรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษ ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นที่ต้องการผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะมาสอน ดังนั้น จึงอาจต้องใช้ครูอัตราจ้างที่เข้ามาโดยช่องทางพิเศษ ซึ่งผ่านการคัดเลือกหรือสรรหา ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนใช้วิธีสรรหาโดยการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการสถานศึกษา มีวาระการดำรงตำแหน่งไม่เกิน 4 ปี
"แนวคิดนี้จะใช้กับโรงเรียนที่มีลักษณะพิเศษ เช่น โรงเรียนวิทยาศาสตร์ ที่ต้องใช้ครูที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางเข้ามาทำงาน ดังนั้น พนักงานราชการจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะมีโรงเรียนลักษณะพิเศษเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่าข้อเสนอดังกล่าวเขียนไว้ค่อนข้างคลุมเครือ จะต้องปรับแก้ให้ชัดเจนขึ้น แต่คงต้องดำเนินการหลังประชาพิจารณ์เสร็จสิ้นก่อน ผมไม่อยากให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเกิดความกังวล ยืนยันว่าครูและผู้บริหารที่เข้ามาในช่องทางปกติทั่วไปยังคงมีสถานภาพเป็นข้าราชการเช่นเดิม" นาย กมลกล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร่างกรอบทิศทางแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2574 (ฉบับปรับปรุง 1 เม.ย. 2559)