ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมบทความการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป


บทความการศึกษา 12 เม.ย. 2559 เวลา 13:01 น. เปิดอ่าน : 11,391 ครั้ง
Advertisement


Advertisement

ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป

ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป

ผศ.ดร.วิวรรธน์ ปาณะสิทธิพันธุ์
มหาวิทยาลัยรังสิต


พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 กฎหมายฉบับนี้มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ได้คุณภาพทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ โดยได้กำหนดให้ระบบการศึกษาทั้งระบบของประเทศมีการประกันคุณภาพการศึกษา (มาตรา 47) เพื่อประโยชน์ของผู้ปกครอง นักศึกษา ผู้ใช้บัณฑิต สังคมโดยรวม รวมไปถึงจะทำให้ระบบการศึกษาของไทยมีขีดความสามารถในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพสามารถแข่งขันหรือมีความทัดเทียมกับระบบการศึกษาของประเทศอื่นๆ อีกทั้งยังได้กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นผู้ดำเนินการด้านการประกันคุณภาพภายในสถาบัน และให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เป็นผู้ที่ดำเนินการการประกันคุณภาพภายนอก (มาตรา 48 และมาตรา 49)

ปัจจุบันนับเป็นเวลาประมาณ 16 ปีแล้ว ที่สถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนทุกสถาบันต่างเข้าสู่ระบบการประกันคุณภาพที่ถูกตราไว้เป็นกฎหมายฉบับนี้มาโดยตลอด สังคมต่างคาดหวังว่าคุณภาพการศึกษาจะพัฒนาดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

มีการสำรวจความคิดเห็นที่มีต่อบทบาทหน้าที่และการทำงานของ สกอ.และ สมศ. ดำเนินการโดยสถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่ง ในระยะเวลาปลายปี 2557 โดยรวบรวมข้อมูลจากสถาบันอุดมศึกษา 170 สถาบัน ทั้งที่เป็นสถาบันของรัฐและเอกชน ผู้ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 52 เป็นอาจารย์ ร้อยละ 15.2 และ 15.6 ดำรงตำแหน่งคณบดีและรองคณบดีตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีรองอธิการบดี ร้อยละ 7.4 ผู้ช่วยอธิการบดี ร้อยละ 4.8 และอธิการบดี ร้อยละ 0.8 ตามลำดับ ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดมีส่วนร่วมในการประเมินคุณภาพการศึกษาแทบทั้งสิ้น ผลการสำรวจพบว่า จากการดำเนินการตามระบบประกันคุณภาพที่ดำเนินงานโดยองค์กรทั้งสองคือ สกอ.และ สมศ. ที่ผ่านมานั้นเพิ่มภาระงาน สิ้นเปลืองเวลา และค่าใช้จ่ายทำให้เกิดปัญหาในการบริหารงานของหน่วยงาน ทั้งนี้เพราะระบบการประกันคุณภาพทั้งของ สกอ.และของ สมศ. สถาบันการศึกษาต้องดำเนินการทำทุกปีการศึกษาทั้ง 2 ระบบ

เราจะปฏิเสธในข้อเท็จจริงข้อหนึ่งไม่ได้ว่าระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอังกฤษนั้นต้องมีการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ประเมินมีความรอบรู้ด้านการศึกษา ดังนั้นเขาจะเรียกร้องหาเอกสารหลักฐานน้อยมาก แตกต่างจากระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของไทยเป็นอย่างมาก ในการประเมินคุณภาพแต่ละครั้งผู้ประเมินจะเรียกหาหลักฐานที่เป็นเอกสาร ทั้งนี้เพื่อที่จะตอบคำถามหรือให้รองรับกับเกณฑ์การประเมินคุณภาพการศึกษาที่ถูกออกแบบมาบังคับให้สถาบันการศึกษาต้องทำตาม (มาตราที่ 50 ของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ) เหตุผลสำคัญประการหนึ่งก็คือ ผู้ประเมินคุณภาพการศึกษาของไทยจำนวนมากมีความไม่เชื่อถือและขาดความเข้าใจต่อบริบทของสถาบันที่ตนเองเข้าประเมิน ผู้ประเมินขาดมุมมองและทัศนคติเชิงบวกต่อระบบการศึกษาจนในบางครั้งได้ให้ข้อเสนอแนะที่สถาบันการศึกษาไม่สามารถจะปฏิบัติได้

แล้วทำไมสถาบันการศึกษาจึงไม่เลือกแนวทางการประกันคุณภาพที่เหมาะสมกับตนเอง

ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าระบบการประกันคุณภาพการศึกษาไทยเป็นระบบบังคับทำโดยกฎหมาย เป็นระบบที่ออกแบบให้ทุกสถาบันไม่ว่าจะเป็นสถาบันเล็ก สถาบันใหญ่ สถาบันที่ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ สถาบันที่ตั้งอยู่ต่างจังหวัด ทุกสถาบันต้องทำตามแนวทางที่ผู้รับผิดชอบเห็นว่า นี่คือระบบการประกันคุณภาพ ที่จะทำให้คุณภาพการศึกษาดีขึ้น และสถาบันการศึกษาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเมื่อมองในภาพรวม สถาบันการศึกษามีบริบทที่แตกต่างกัน แต่ใช้ตัวบ่งชี้และเกณฑ์การประเมินคุณภาพชุดเดียวกันจึงได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน สถาบันขนาดใหญ่ได้รับผลกระทบมาก สถาบันขนาดเล็กย่อมได้รับผลกระทบมากกว่า เสมือนนักมวยที่ชกข้ามรุ่นต้องแบกน้ำหนักมากและมักจะบอบช้ำมากเมื่อชกครบยก เราจะปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือผลของการบังคับใช้ตาม พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ

ในภาพรวมแล้วระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของไทยจึงกลายเป็นยาขมหม้อใหญ่ที่ทุกสถาบันการศึกษาต้องดื่มด้วยความขมขื่น ไม่ว่าจะเป็นภาระงานด้านเอกสารที่มีมากมาย รวมถึงกำลังคนที่มาทำงานด้านเอกสารเพื่อการประกันคุณภาพ เวลาที่ใช้ในการดำเนินงานกิจกรรมที่แม้ผู้ปฏิบัติจะเห็นว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ซ้ำซาก แต่ก็จำเป็นต้องทำ วิธีการดังกล่าวล้วนเป็นความสูญเสียอย่างมหาศาลในด้านทรัพยากร คน เวลา และงบประมาณ

จะเห็นได้ว่า ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่ทั้งสองหน่วยงานรับผิดชอบ เป็นกลไกที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายคุณภาพการศึกษาด้วย ตัวมันเอง ทั้งนี้เพราะครูบาอาจารย์แทนที่จะทุ่มเทเวลามากมายกับการเรียนการสอน และการวิจัยที่เป็นหัวใจของคุณภาพการศึกษา กลับต้องมาใช้เวลาส่วนใหญ่สาละวนอยู่กับการเตรียมเอกสารเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา องค์กรทั้งสองแห่งที่ รับผิดชอบด้านการประกันคุณภาพ คือ สมศ.และ สกอ.ต่างขาดความเชื่อถือในอาชีพครู ขาดทัศนคติเชิงบวกต่อระบบการเรียนการสอน ไม่เชื่อถือคุณภาพของบัณฑิตที่สถาบันได้ผลิตขึ้นมา ดังนั้นระบบการประกันคุณภาพของไทยจึงไม่ก้าวไปถึงไหน และจมอยู่กับความคิดเดิมเดิม

ยกตัวอย่างเช่น ในการประกันคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา สกอ.ได้กำหนดตัวบ่งชี้และเกณฑ์การประเมินคุณภาพการศึกษาขึ้นมาใหม่ โดยให้เริ่มใช้ในการประเมินคุณภาพการศึกษา ภายในของปีการศึกษา 2557 เมื่อพิจารณาเพียงผิวเผินจะเห็นว่าตัวบ่งชี้ดังกล่าวจะสอดคล้องกับภารกิจของสถาบันอุดมศึกษาก็ตาม แต่ในทางปฏิบัตินั้นตรงกันข้าม ในเมื่อระบบการประกันคุณภาพใหม่ของ สกอ.ให้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 เท่านั้น ดังนั้นระบบการประกันคุณภาพใหม่นี้จึงเป็นระบบที่ปฏิเสธความเป็นจริงด้านการจัดการศึกษาที่ว่าการจัดการศึกษาเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องเฉกเช่นเดียวกันกับการเรียนรู้ของมนุษย์ที่เป็นกระบวนการต่อเนื่องเช่นกัน เมื่อเป็นเช่นนี้การประเมินคุณภาพจึงไม่ตรงกับความเป็นจริง

และในตัวอย่างที่คล้ายคลึงกัน เมื่อถึงเวลาที่จะมีการประเมินคุณภาพการศึกษาภายนอกรอบที่ 4 สมศ.ได้นำเสนอตัวบ่งชี้และเกณฑ์ประเมินคุณภาพการศึกษา แต่ถูกสถาบันอุดมศึกษาทั้ง 4 กลุ่ม คือ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ กลุ่มมหาวิทยาลัยราชมงคล กลุ่มมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้า และกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชนแสดงความไม่เห็นด้วยกับการนำตัวบ่งชี้ที่ไม่สะท้อนคุณภาพการศึกษามาใช้ประเมิน อีกทั้งการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้เหล่านั้นก่อให้เกิดภาระงานที่ไม่จำเป็นมากมาย จนเป็นเหตุให้ที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.) ปฏิเสธแนวทางการประเมินตามตัวบ่งชี้และเกณฑ์ที่ สมศ. กำหนดอย่าง สิ้นเชิง

ที่ผ่านมา สถาบันการศึกษาจะประสบปัญหาที่ ผู้บริหาร คณาจารย์ ต่างพยายามผลักดันตนเองให้ไกลจากภาระงานด้านการประกันคุณภาพ ครูบาอาจารย์แทบทุกคนจะรู้ว่างานประกันคุณภาพเป็นภาระงานที่ไม่ได้ส่งผลเชิงบวกต่อคุณภาพการศึกษา จึงไม่ค่อยมีใครอยากจะทำด้วยความเต็มใจ หากแต่เป็นภาระงานที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

นี่คือสภาพปัจจุบันของระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของไทย

เมื่อใดที่องค์กรนานาชาติมีการจัดลำดับคุณภาพการศึกษาขึ้นมา สถาบันการศึกษาทั้งระดับมัธยมศึกษาและระดับอุดมศึกษาไทยไม่ติดอันดับที่ดีเลย ยิ่งไปกว่านั้นการจัดอันดับบางครั้งประเทศไทยมีคุณภาพการศึกษาต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนเสียอีก และที่น่าอดสูไปกว่านั้นก็คือ องค์กรที่รับผิดชอบในการประกันคุณภาพไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบใดใดเลย หรือว่าไม่มีความละอายใจกันหรืออย่างไร

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องมีการทบทวนระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของไทยเสียใหม่ ตั้งแต่ด้านกฎหมาย บทบาทและการดำเนินงานของ สกอ.และ สมศ. และต้องทำอย่างจริงจัง...ทันที หยุดปู้ยี่ปู้ยำระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของชาติได้แล้ว...ก่อนที่จะสายเกินแก้

 

ที่มา มติชน ฉบับวันที่ 13 เม.ย. 2559 (กรอบบ่าย)

 

คุณครูใช้พลังเสียงแต่ละวันมากไหม? ลองดู (ไมค์wireless,รองรับFM) Rolton K400FM ไมค์ลอย ไมค์ไร้สาย ไมค์ช่วยสอน ลำโพงพกพา ลำโพง ไมค์ลอย K400 FM ในราคา ฿494 - ฿592 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/50IAUAsJw0?share_channel_code=6


ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไปทบทวนระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้...ฤๅว่าจะสายเกินไป

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

การศึกษาปัญหาที่แก้ไม่ตก

การศึกษาปัญหาที่แก้ไม่ตก


เปิดอ่าน 8,848 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

อวสาน อ.ก.ค.ศ. โดย อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

เปิดอ่าน 19,905 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
จริงหรือที่คนมีสมองขนาดใหญ่ฉลาดมากกว่าคนที่มีสมองขนาดเล็ก ? หาคำตอบได้ที่นี่!
จริงหรือที่คนมีสมองขนาดใหญ่ฉลาดมากกว่าคนที่มีสมองขนาดเล็ก ? หาคำตอบได้ที่นี่!
เปิดอ่าน 8,700 ☕ คลิกอ่านเลย

กก.อิสระปฏิรูปการศึกษาช่วยที : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
กก.อิสระปฏิรูปการศึกษาช่วยที : โดย สมหมาย ปาริจฉัตต์
เปิดอ่าน 7,265 ☕ คลิกอ่านเลย

การแก้ปัญหาการศึกษาไทย คันที่หลัง อย่าไปเกาที่ขา
การแก้ปัญหาการศึกษาไทย คันที่หลัง อย่าไปเกาที่ขา
เปิดอ่าน 18,832 ☕ คลิกอ่านเลย

ฟินแลนด์ vs ไทย อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จทางการศึกษา
ฟินแลนด์ vs ไทย อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จทางการศึกษา
เปิดอ่าน 19,954 ☕ คลิกอ่านเลย

อัตลักษณ์ของคนกระทรวงเสมา : อัตลักษณ์วิชาชีพครู
อัตลักษณ์ของคนกระทรวงเสมา : อัตลักษณ์วิชาชีพครู
เปิดอ่าน 10,028 ☕ คลิกอ่านเลย

ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science  ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ
ถอดความสำเร็จโครงการ Chevron Enjoy Science ที่ต่อเติมพื้นที่ให้สะเต็มศึกษาเป็นเรื่องสนุก พร้อมปูทางสู่อนาคตประเทศ
เปิดอ่าน 909 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

มันมือเสือ
มันมือเสือ
เปิดอ่าน 26,240 ครั้ง

3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง
เปิดอ่าน 1,581 ครั้ง

ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด
เปิดอ่าน 5,809 ครั้ง

แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์
แนะนำ 10 เครื่องมือดี ๆ ช่วยครูในการสอนออนไลน์
เปิดอ่าน 9,780 ครั้ง

ดูพี่ตำรวจเค้าทำ รถเกือบชนกันระนาว !
ดูพี่ตำรวจเค้าทำ รถเกือบชนกันระนาว !
เปิดอ่าน 13,712 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ