“บัณฑิตย์”เร่งรวบรวมข้อมูลโครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เผยถ้าครู-ผู้บริหารโรงเรียนเข้าใจ บูรณาการทุกวิชาให้เด็กเรียนรู้ ได้เห็นของจริงจากการปฏิบัติจะเกิดประโยชน์มาก
วันนี้(6เม.ย.)ดร.บัณฑิตย์ ศรีพุทธรางกูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค(ศธภ.)13 เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ตนรับผิดชอบติดตามการดำเนิน “โครงการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” นั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลจากผู้ตรวจราชการทุกคน เพื่อสรุปผลการดำเนินโครงการในช่วงที่ผ่านมาเสนอรมว.ศึกษาธิการ โดยวัตถุประสงค์หลักของโครงการคือ การนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติ การสร้างกระบวนการคิดให้แก่นักเรียน การพัฒนานักเรียนให้เต็มศักยภาพ นักเรียนมีความสุข และผู้ปกครองมีความพึงพอใจ
ดร.บัณฑิตย์ กล่าวต่อไปว่า ในทางปฏิบัติหากสามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์หลัก โดยเฉพาะการนำหลักสูตรไปสู่การปฏิบัติได้ จะทำให้เด็กเกิดความเข้าใจในบทเรียน โดยไม่ต้องจดก็ได้ ซึ่งครูผู้สอนก็ต้องมีวิธีในการการประยุกต์ และกิจกรรมที่จะนำมาใช้ก็ต้องเชื่อมโยงกับหลักสูตรให้เกิดการบูรณาการหลาย ๆ วิชาเข้าด้วยกัน เช่น การทำข้าวต้มมัด ก็ควรให้เด็กรู้ว่าส่วนผสมแต่ละอย่างมีคุณค่าทางอาหารอะไรบ้างทั้ง ข้าวเหนียว ถั่วดำ กล้วย กะทิ เป็นต้น ขณะเดียวกันก็นำวิชาคณิตศาสตร์เข้าไปสอน ด้วยการคำนวณต้นทุน และคิดราคาที่จะขาย หรืออาจจะสอนภาษาอังกฤษเข้าไปในตัวก็ได้ว่าส่วนผสมแต่ละอย่างเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่าอะไร ซึ่งหากครูสามารถบูรณาการทุกวิชาได้แบบนี้ ไม่ใช่สอนให้ทำข้าวต้มมัดเป็นอย่างเดียว เชื่อว่าจะทำให้กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ได้ประโยชน์ยิ่งขึ้น
“กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ จะได้ประโยชน์มากขึ้น ถ้าครู ผู้บริหารสถานศึกษามีความเข้าใจและสามารถบูรณาการวิชาต่าง ๆ มาพัฒนาผู้เรียน จะทำให้เด็กได้เห็นของจริง ไม่ต้องท่องจำ เป็นการเรียนรู้สู่การปฏิบัติที่จะได้ผลอย่างแท้จริง ซึ่งเท่าที่ติดตามก็พบว่าส่วนใหญ่มีความเข้าใจแล้ว แต่ยังกังวลว่าเวลาเรียนวิชาหลักจะไม่เพียงพอตามหลักสูตรขั้นพื้นฐาน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการก็มีกลุ่มสมาร์ทเทรนเนอร์ลงไปนิเทศให้คำแนะนำอยู่แล้ว”ดร.บัณฑิตย์ กล่าว
ที่มา เดลินิวส์ วันที่ 6 เมษายน 2559