ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สรุปประเด็น การประชุม Video Conference กับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา


ข่าวการศึกษา 5 เม.ย. 2559 เวลา 06:36 น. เปิดอ่าน : 9,153 ครั้ง
Advertisement

สรุปประเด็น การประชุม Video Conference กับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา

Advertisement

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านระบบ Video Conference เมื่อวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2559 ณ ห้องประชุม 1 โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค 1-18 ผู้บริหารองค์กรหลัก และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุม

 

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อต้องการสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาตามคำสั่งของ คสช. โดยมีประเด็นเร่งด่วนที่ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการคือ การเร่งให้เกิด กศจ. เพื่อให้มีคณะกรรมการครบองค์ประกอบในการพิจารณาเรื่องเร่งด่วนให้เสร็จภายในเดือนเมษายนนี้

จึงได้ขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ดังนี้

- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ กศจ.

ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ

1) การบริหารการศึกษา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะช่วยให้เกิดการประสานงานและบูรณาการการศึกษาในทุกแท่งในจังหวัด ตลอดจนช่วยกำกับ ดูแลการขับเคลื่อนนโยบายในพื้นที่ และเสนอแนะปัญหาในพื้นที่ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนทราบได้ด้วย

2) การบริหารงานบุคคล ซึ่งจะดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเดิม คือเรื่องการบรรจุแต่งตั้ง เรื่องวินัย และเรื่องความดีความชอบ ยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างมีกฎกติกาอยู่แล้ว

- คัดเลือกผู้แทน 3 ส่วนเป็นกรรมการ

ซึ่งได้กำหนดให้มีคณะกรรมการ กศจ.ที่มาจากการคัดสรรของผู้ว่าราชการจังหวัดจำนวน 7 ราย จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดคัดเลือกผู้แทนจากบัญชีรายชื่อที่กระทรวงศึกษาธิการจัดส่งให้ เพื่อเป็นคณะกรรมการดำเนินงานเป็นการชั่วคราวในช่วง 3 เดือนแรก โดยกรรมการสามารถดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 จังหวัดต่อคน ประกอบด้วย

1) ผู้แทนภาคประชาชน จำนวน 2 ราย โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเลือกผู้แทนประชาชนจากบัญชีรายชื่อที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอยู่แล้วจังหวัดละ 4 ราย แต่ได้หมดวาระการดำรงตำแหน่งไปแล้ว เพื่อให้กลับมาเป็นคณะกรรมการนี้

2) ผู้แทนข้าราชการครู จำนวน 2 ราย ซึ่งได้มอบเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานรวบรวมรายชื่อครูที่มีคุณสมบัติเหมาะสม อาทิ จะต้องเป็นครูสายผู้สอนและปฏิบัติการสอนในจังหวัดนั้นอย่างต่ำเป็นเวลา 10 ปี, ต้องเป็นครูที่มีประวัติที่ดีและเป็นที่ยอมรับ

3) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ราย ให้เลือกจากบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ จำนวน 475 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ส่งให้


- 5 ภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการภายในเดือนเมษายนนี้

1) การประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา และการจัดสรรโอกาสเข้าศึกษาต่อระหว่างสถานศึกษาที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ ก่อนเปิดภาคเรียนไม่น้อยกว่า 1 ปี (ลงนามในประกาศภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2559)

2) คำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน

3) การย้ายครู ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นชอบรายชื่อย้ายที่เป็นมติคณะอนุกรรมการกลั่นกรองชุดเดิมไปก่อน ที่จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของ กศจ. ทั้งนี้เพื่อต้องการเร่งดำเนินการให้ทันเวลา เป็นขวัญกำลังใจแก่ครู และไม่ให้ครูเสียสิทธิ์จากคำสั่งของ คสช.ในครั้งนี้ จากนั้นในเดือนตุลาคมนี้ เมื่อเกิดคณะอนุกรรมการกลั่นกรองของ กศจ.แล้ว ก็จะสามารถดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มรูปแบบได้ทันที

4) การเรียกบรรจุจากบัญชีที่สอบขึ้นบัญชีไว้ ซึ่งจะต้องดำเนินการบรรจุครูในอัตราที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในปลายเดือนเมษายนนี้ โดยได้มอบให้ สพฐ.ไปสำรวจบัญชีสอบทั้งหมดแล้ว ในเบื้องต้นส่วนใหญ่จะหมดอายุในช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคมนี้ จึงต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนหมดอายุ ในส่วนของโรงเรียนที่ยังขาดครูจำนวนมากนั้น เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่ กศจ.จะต้องลงไปดูแลและเร่งดำเนินการต่อไป

5) การจัดสอบครูผู้ช่วย

 

- ประเด็นที่ต้องสร้างความเข้าใจให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา

ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยสื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา เกี่ยวกับข้อมูลในประเด็นต่างๆ ที่ไม่เป็นความจริงในหลายเรื่อง ได้แก่ การเปลี่ยนตำแหน่งครูเป็นพนักงานราชการ, การโอนย้ายครูไปอยู่ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.), ครูจะไม่มีเงินวิทยฐานะ, ครูไม่ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะถูกยุบให้เหลือจังหวัดละเขต, การยกเลิกโครงการเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัว (ช.พ.ค.) และโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนสมาชิกคุรุสภา (ช.พ.ส.) นอกจากนี้ยังมีหลายประเด็นที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง อาทิ ผู้บริหารโรงเรียนจะถูกประเมินโดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ซึ่งในความเป็นจริงผู้อำนวยการโรงเรียนจะเป็นผู้ประเมินครู, การให้มีโรงเรียนเอกชนเกิดขึ้นในทุกตำบล ในเรื่องนี้จะให้เป็นไปตามความพร้อมของเอกชนซึ่งจะเป็นผู้ลงทุนด้านการศึกษาเอง เป็นต้น

 

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่าจากการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ว่าราชการจังหวัดในครั้งนี้ มีความเชื่อว่าแนวทางการดำเนินงานของ กศจ. สอดคล้องกับการดำเนินงานและบูรณาการการทำงานในแต่ละจังหวัดอยู่แล้ว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งตั้ง กศจ. เพื่อขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่

ดังนั้นหากกระทรวงศึกษาธิการได้รับรายชื่อจาก กศจ.ในแต่ละจังหวัดครบถ้วนแล้ว ก็จะออกคำสั่งแต่งตั้ง กศจ. ทั้ง 76 จังหวัด ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้คณะกรรมการมีองค์ประกอบครบถ้วน สามารถประชุมคณะกรรมการได้ทันที

 

 

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การทำงานของกระทรวงมหาดไทยในฐานะที่เป็นแขนขาของรัฐบาลในครั้งนี้ คงมีความชัดเจนมากขึ้นที่จะทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการคือ เร่งจัดตั้ง กศจ.ขึ้นมาทำงาน เพราะ กศจ.จะมีตัวแทนภาครัฐ เอกชน และประชาชน จึงขอมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธาน กศจ. หารือกับศึกษาธิการจังหวัด เพื่อดำเนินการคัดเลือกและส่งรายชื่อผู้ที่จะมาเป็นคณะกรรมการใน กศจ.ทั้ง 7 ราย ภายในวันที่ 5 เมษายนนี้

นอกจากนี้ ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขับเคลื่อนงานตามกรอบของคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ซึ่งมีจุดเน้นยุทธศาสตร์ 6 ด้านที่ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดีแล้ว ได้แก่ ครู, หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้, พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้, การประเมินและการพัฒนามาตรฐานการศึกษา, ICT เพื่อการศึกษา และการบริหารจัดการ ตลอดจนให้กำกับดูแลการขับเคลื่อนโครงการตามยุทธศาสตร์ปฏิรูปการศึกษาเร่งด่วน 4 เรื่องให้มีความก้าวหน้า ได้แก่ คืนครูสู่ห้องเรียน, โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น (โครงการคุรุทายาท), ยกระดับความรู้ภาษาอังกฤษ, การอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน ทั้งนี้สามารถเสนอแนะโครงการต่างๆ ที่จำเป็นสำคัญต่อการพัฒนาตามบริบทแต่ละพื้นที่ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ พิจารณาได้

 

ภายหลังการประชุมชี้แจง ได้เปิดโอกาสให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซักถามและเสนอแนะในประเด็นต่างๆ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ อาทิ ยโสธร นนทบุรี มหาสารคาม ภูเก็ต พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม ยะลา อุดรธานี น่าน เชียงใหม่ ได้ซักถามและมีข้อเสนอแนะที่สำคัญโดยสรุปดังนี้

การคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิในช่วงของการเปลี่ยนผ่านนี้ ขอให้เลือกจากบัญชีรายชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่กระทรวงศึกษาธิการส่งไปให้ก่อน ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมผู้มีความรู้ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ถึง 475 ราย โดยขอให้จังหวัดติดต่อทาบทามท่านเหล่านั้นเอง แต่หากไม่สามารถเลือกเองได้ ขอให้ส่งกลับมาให้ส่วนกลางแต่งตั้งแทนก็ได้ เพื่อให้การสามารถงานเดินหน้าไปได้ก่อนในช่วง 3 เดือนแรก

ต้องการให้มีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการฯ ระดับพื้นที่ (Area) เพราะการศึกษาระดับอำเภอมีอยู่มากมาย ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเห็นด้วยและรับที่จะไปพิจารณากฎกติกาเพื่อตั้งคณะอนุกรรมการฯ บริหารการศึกษา แต่ไม่เห็นด้วยหากเป็นคณะอนุกรรมการฯ ด้านการบริหารงานบุคคล

แนวทางการจัดระบบเชื่อมโยงโรงเรียนสังกัดกระทรวงศึกษาธิการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งตัวชี้วัดที่จะใช้ในการประเมินผล โดย รมว.ศึกษาธิการได้ชี้แจงว่า การจัดระบบการศึกษาภายในจังหวัดอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กศจ.ที่จะสามารถดำเนินการได้อยู่แล้ว ส่วนการประเมินผลนั้น กระทรวงศึกษาธิการจะจัดทำตัวชี้วัด (KPIs) ที่มีความชัดเจนและส่งให้ กศจ.รับทราบ หากต้องการจะเพิ่มเติมตัวใด ก็สามารถเสนอให้คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ พิจารณาได้

การนับองค์ประชุม รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับนับองค์ประชุมว่า ขอให้นับจากคณะกรรมการที่มีอยู่จำนวน 22 คน ดังนั้นจะต้องมีผู้มาประชุมอย่างน้อย 12 คน จึงจะสามารถประชุมได้

ประเด็น กศจ.จะสามารถตั้งอนุกรรมการฯ กลั่นกรองการย้ายได้หรือไม่ โดยในช่วงของการเปลี่ยนผ่านนี้ กระทรวงศึกษาธิการขอให้ใช้บัญชีผู้ที่ได้รับการโยกย้ายที่ผ่านการกลั่นกรองของคณะอนุกรรมการฯ เดิมไปก่อน เพื่อเร่งดำเนินการให้ย้ายได้เร็วขึ้น แต่หากมีข้อร้องเรียนใดๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้อำนาจของ กศจ.เพื่อเก็บเรื่องไว้ก่อนได้

การประกาศส่งเด็กเข้าเรียนและการส่งเด็กเข้าสถานศึกษาภาคบังคับ ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม หมายความรวมถึงประกาศของจังหวัดที่เคยทำไว้แล้วหรือไม่ ในประเด็นนี้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ยืนยันให้จังหวัดดำเนินการไปตามบัญชีเดิมที่ทำไว้แล้ว

ขอความมั่นใจจากกระทรวงศึกษาธิการที่จะเป็นตัวช่วยในการบริหารงานบุคคล เพราะเกรงว่าจะกระทบและมีการฟ้องร้องไปยังศาลปกครอง ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ตอบคำถามว่าในเรื่องของการบริหารงานบุคคล ก.ค.ศ.ได้กำหนดกฎกติกาไว้ให้แล้ว และได้จัดทำเป็นคู่มือการบริหารงานบุคคล พร้อมจัดส่งไฟล์ร่างให้ตรวจสอบก่อนแล้ว ต่อจากนี้ขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดทำข้อมูลพื้นฐานการบริหารงานบุคคล การสอบแข่งขัน การย้าย เตรียมไว้เสนอ กศจ. และจะมีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจก่อนประชุม กศจ.นัดแรกด้วย

ขอให้จังหวัดได้เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาชน เพื่อให้ตรงกับบริบทของจังหวัดนั้นๆ และเกิดการมีส่วนร่วม ซึ่งในเรื่องนี้อยู่ระหว่างการกำหนดกติกาใหม่ ที่ผู้ทรงคุณวุฒิจะมาจากจังหวัดแน่นอน แต่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านนี้ (3 เดือนแรก) ขอให้ใช้บัญชีของที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชนไปก่อน เพราะเชื่อว่าท่านเหล่านั้นเป็นผู้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการทำหน้าที่นี้
 

 

ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 4 เมษายน 2559

 


สรุปประเด็น การประชุม Video Conference กับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาสรุปประเด็นการประชุมVideoConferenceกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567

ก.ค.ศ. อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จำนวน 9 ราย เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567

เปิดอ่าน 4,690 ☕ 8 ต.ค. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม"  ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
สมศ.ขานรับนโยบาย "บิ๊กอุ้ม" ภายใน 5 ปี ประเมินสถานศึกษาครบกว่า 5.8 หมื่นแห่ง
เปิดอ่าน 120 ☕ 19 พ.ย. 2567

คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
คุรุสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. ... และ (ร่าง) ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูการศึกษาพิเศษ พ.ศ. ... ระหว่างวันที่ 15 - 30 พฤศจิกายน 2567
เปิดอ่าน 494 ☕ 15 พ.ย. 2567

"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
"สุเทพ" แนะศึกษาธิการจังหวัดสร้างศรัทธาในการทำงานพร้อมร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่ขับเคลื่อนปฏิรูปการศึกษา
เปิดอ่าน 544 ☕ 15 พ.ย. 2567

ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
ปฏิทินการบริหารงานบุคคล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2568
เปิดอ่าน 2,937 ☕ 13 พ.ย. 2567

ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
ประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกระดับชาติเพื่อเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ประจำปี 2567
เปิดอ่าน 1,899 ☕ 13 พ.ย. 2567

สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
สพฐ.แจ้งแนวทางการอนุญาตให้บุคลากรในสังกัดทำหน้าที่ผู้ประเมินคุณภาพภายนอก
เปิดอ่าน 768 ☕ 13 พ.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
Cut-Away Leaf Art ตัดใบไม้ให้เป็นงานอาร์ต
เปิดอ่าน 40,467 ครั้ง

11 วิธีปรับตัวเองให้เป็นคนรักงาน
11 วิธีปรับตัวเองให้เป็นคนรักงาน
เปิดอ่าน 13,669 ครั้ง

OLATE DOGS คลิปการแสดงสุนัข สำหรับคนรักน้องหมา บอกได้เลยว่า น้องหมาสุดยอดมาก
OLATE DOGS คลิปการแสดงสุนัข สำหรับคนรักน้องหมา บอกได้เลยว่า น้องหมาสุดยอดมาก
เปิดอ่าน 9,596 ครั้ง

รู้จัก รู้ใช้ ถุงลมนิรภัย
รู้จัก รู้ใช้ ถุงลมนิรภัย
เปิดอ่าน 14,610 ครั้ง

การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
เปิดอ่าน 11,698 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ