“ชมรมครูประชาบาลอีสาน” เชิญชวนสมาชิกยอมรับและสนับสนุนการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ปฏิรูปการศึกษาในท้องถิ่น เชื่อทำให้เห็นคุณภาพการศึกษาได้เร็วขึ้น พร้อมแนะเพื่อนครูหาทางไปมีส่วนร่วมใน กศจ.
วันนี้ (30มี.ค.) นายประวิทย์ บึงไสย์ ประธานชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้มีการประชุมคณะผู้บริหารชมรมฯและผู้นำสมาพันธ์ครูอุดธานี เพื่อทำความเข้าใจและติดตามการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค โดยที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และมีมติ ดังนี้
1.ขอให้สมาชิกของชมรมฯและสมาพันธ์ฯยอมรับและสนับสนุนการใช้อำนาจตามคำสั่งดังกล่าว เพื่อตอบสนองเจตนารมณ์ของ คสช.ที่ต้องการให้เกิดคุณภาพการศึกษาที่เป็นรูปธรรมรวดเร็ว ชัดเจน และเห็นว่ากฎหมายทางการศึกษาที่สำคัญก็ยังคงอยู่ ยกเว้นอำนาจการบริหารงบประมาณและการบริหารงานบุคคลในระดับเขตพื้นที่การ ศึกษาเท่านั้นที่ถูกยกเลิกไป
2.ให้ทุกองค์กรครูทำความเข้าใจกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมสร้างความตระหนักในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มข้นให้สมกับเป็นวิชาชีพชั้นสูง
3.ในฐานะข้าราชการครูควรแสวงหาแนวทางเข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) และ อนุกรรมการ กศจ.(อ.กศจ.) เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักธรรมมาภิบาล
นายประวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนจุดยืนของชมรมฯ คือ ยังคงยึดมั่นให้รัฐต้องจัดการศึกษาให้พลเมืองไทยได้สิทธิรับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพด้วยความเสมอภาคเท่าเทียมและทั่วถึง โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และสิ่งสำคัญเร่งด่วน คือ ต้องทำความเข้าใจกับข้าราชการครูฯเกี่ยวกับคำสั่งหัวหน้า คสช. เพราะวิถีชีวิตของครูฯส่วนใหญ่ต้องปรับเปลี่ยนตาม และเชื่อว่าในเร็ว ๆ นี้ จะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายแน่นอน ซึ่งทางชมรมฯจะคอยเฝ้าติดตามต่อไป หากสิ่งใดที่เป็นประโยชน์และช่วยให้การศึกษาของชาติได้รับการพัฒนาก็ยินดีให้การสนับสนุน แต่หากมีจุดบกพร่องหรือทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องเสียสิทธิก็จะออกมาแสดงความคิดเห็นเพื่อให้เกิดการแก้ไขต่อไป
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 30 มีนาคม 2559