วันนี้ (25 มี.ค.) ที่กระทรวงการคลัง นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม กยศ.ได้ลงนามกับองค์กรนายจ้าง 36 หน่วยงาน ทั้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวช่วยหลักบัญชีเงินเดือนของลูกจ้างที่เป็นลูกหนี้ กยศ. โดยก่อนหน้านี้ กยศ.ได้ลงนามกับหน่วยงานต้นแบบ 5 แห่ง คือ กรมบัญชีกลาง บริษัท บาธรูม ดีไซน์ จำกัด มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ วิทยาลัยเทคโนโลยีตะวันออก ไปแล้วได้ผลเป็นอย่างดี โดยจะพยายามผลักดันให้หน่วยงานราชการทั้ง 200 แห่ง และรัฐวิสาหกิจ 50 แห่งเข้าร่วมให้มากขึ้น
นายสมชัยกล่าวว่า เท่าที่มาดูตัวเลขของเงินกู้ กยศ. พบว่า เป็นหนี้เสียกว่า 50% ถือว่าสูงมาก ดังนั้นจำเป็นต้องมีโครงการกระตุ้นผู้กู้กว่า 4 ล้านราย วงเงินกู้กว่า 4.7 แสนล้านบาท ให้ใช้หนี้คืน เพื่อที่ในอนาคตนั้น กยศ.จะสามารถใช้เงินที่ได้รับคืนมาจากผู้กู้ไปปล่อยกู้ให้นักเรียน นักศึกษารุ่นต่อ ๆ ไป โดยไม่ต้องของบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมา กยศ.มีโครงการดึงคนให้มาใช้หนี้ ทั้งลดดอกเบี้ยให้ ลดค่าปรับ แต่ยังเข้าโครงการกันน้อยมาก
นายสมชัยกล่าวว่า ในส่วนของข้าราชการเป็นหนี้ กยศ. และไม่ยอมใช้หนี้กว่า 6 หมื่นรายนั้น จะพยายามให้ข้าราชการทั้งหมดใช้หนี้ด้วยการขอให้หน่วยงานราชการมาเข้าร่วมโครงการกับ กยศ.ทั้งหมด ซึ่งการลงนามระหว่างหน่วยงานนายจ้างกับ กยศ.จะทำให้ สามารถหักบัญชีรายเดือนสำหรับคนที่เป็นหนี้ได้ โดยหักต่อเดือนไม่มาก เพียง 100 บาท สำหรับหนี้ 1 แสนบาท หรือปีละประมาณ 1,500 บาท ดีกว่าถูกฟ้องร้องดำเนินคดีและต้องออกจากราชการ
นายสมชัยกล่าวว่า นอกจากนี้เตรียมจะไปหารือกับสำหนักงานประกันสังคม ในการเช็คข้อมูลผู้กู้ที่มีการทำประกันสังคม เพื่อตามมาชำระหนี้ รวมถึงกำลังประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย ขอให้ไม่ต่ออายุบัตรประชาชนให้ ผู้ที่ไม่ใช้หนี้ กยศ. ซึ่งกระทรวงมหาดไทยกำลังไปดูว่าผิดกฎหมาย หรือผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายสมชัยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ กยศ.ไปดูในเรื่องการเพิ่มเพดานการกู้ และการให้กู้สำหรับสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับ 10 อุตสาหกรรมใหม่ อาทิ อาชีพนักบินที่ใช้เงินปีละ 1 ล้านบาทนั้น ให้ไปดูว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน ที่ กยศ.จะให้กู้ครอบคลุมค่าเรียนได้ทั้งหมด จากขณะนี้มีเพดานการกู้สำหรับวิศวกร 8 หมื่นบาทต่อปี หมอ 2 แสนบาทต่อปี
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 25 มีนาคม 2559