“ธีรวุฒิ”ออกโรงชี้ข้อเสียชะลอประเมินคุณภาพการศึกษา ทุกฝ่ายเสียโอกาส การพัฒนาคุณภาพการศึกษาจะหยุดนิ่ง ได้ไม่คุ้มเสีย
วันนี้(24มี.ค.)ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ(มจพ.) ฐานะกรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.)กล่าวถึงกรณีที่กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เห็นชอบแผนเร่งด่วนในการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบประกันและการประเมินคุณภาพการศึกษา และมีมติเสนอแนะต่อสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ชะลอการประเมินคุณภาพการศึกษา โดยหน่วยงานต้นสังกัดและการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ออกไปเป็นเวลา 2 ปี นั้น ว่า การชะลอการประเมินคุณภาพการศึกษาจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการศึกษาในภาพรวมของประเทศ นอกจากจะไม่เป็นไปตามตามพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ที่ให้ประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาอย่างน้อยหนึ่งครั้งทุก5 ปีแล้ว สถานศึกษาอาจละเลยระบบบริหารคุณภาพการศึกษา เนื่องจากขาดการกระตุ้นจากการประเมินขององค์กรกลางภายนอกสถานศึกษา ขณะเดียวกันผู้ปกครองและผู้เรียนก็ไม่ได้รับทราบถึงสถานะและคุณภาพของสถานศึกษาที่สนใจจะเข้าศึกษาต่อ
ศ.ดร.ธีรวุฒิ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้หน่วยงานต้นสังกัดและรัฐบาลจะขาดข้อมูลจากหน่วยงานกลาง เพื่อใช้ในการกำหนดนโยบาย วางแผน และจัดสรรงบฯพัฒนาสถานศึกษาที่ยังไม่มีความพร้อมในด้านต่าง ๆ ร รวมถึงสถานศึกษาในต่างประเทศอาจลดความเชื่อถือและยอมรับสถานศึกษาไทยลง เนื่องจากขาดกระบวนการด้านมาตรฐานการศึกษา ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ได้ ส่วนผู้ประเมินที่มีคุณภาพ ที่มีประสบการณ์จากการประเมินคุณภาพรอบหนึ่ง-สามที่ผ่านมาก็จะค่อย ๆ หมดไป ทำให้เกิดการขาดช่วงและขาดแคลนผู้ประเมินเมื่อจะเริ่มประเมินรอบสี่
“ที่ผ่านมาได้มีการสั่งให้ สมศ.ชะลอการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกระดับมาแล้วประมาณหนึ่งปีครึ่ง ดังนั้นหากต้องชะลอการประเมินคุณภาพภายนอกต่อไปอีก 2 ปี ก็อาจจะส่งผลให้คุณภาพของสถานศึกษาของไทยหยุดนิ่ง เพราะไม่มีระบบการตรวจสอบมาตรฐานสถานศึกษาจากองค์กรกลางของรัฐระดับชาติ ขณะที่ประเทศอื่นในประชาคมอาเซียนเขามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และหากมีระบบเทียบโอนหน่วยกิตระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนโดยพิจารณาผลการรับรองมาตรฐานสถานศึกษาจากหน่วยงานกลางของชาติแล้ว ประเทศไทยจะเสียโอกาสในการพัฒนาขีดความสามารถและการแข่งขันของเยาวชนไปทันที”ศ.ดร.ธีรวุฒิกล่าว
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 24 มีนาคม 2559