พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลเร่งรัดพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินโครงการ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ระยะแรกในปีการศึกษา 2559 โดยจะประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้ เพื่อรวบรวมปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ นำไปทบทวน ปรับปรุง แก้ไข สำหรับวางแผนดำเนินการต่อไป
"การจัดกิจกรรม หลังเสร็จสิ้นการเรียนในห้องเรียนของเด็กตามโครงการดังกล่าวได้เน้นให้เกิดการพัฒนาผู้เรียน สร้างการเรียนรู้ เสริมคุณลักษณะพึงประสงค์ และเพิ่มทักษะชีวิต หรือการพัฒนา 4H คือ ด้านสติปัญญา (Head)ด้านทัศนคติ (Heart) ด้านเรียนรู้และปฏิบัติจริง (Hands) และด้านสุขภาพ(Health) โดยเฉพาะด้านทัศนคติที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและทักษะชีวิตให้กับเด็กยุคใหม่ ให้เป็นคนดีและเก่งควบคู่กัน โดยในปี 59 ศธ. มีเป้าหมายที่จะขยายการดำเนินงานเป็น 10,669 โรงเรียน และครอบคลุมทั่วประเทศในปี 60"
นอกจากนี้ ในปี 59 รัฐบาลยังจะจัดทำโครงการโรงเรียนประชารัฐ ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมกันพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐาน และพัฒนาผู้นำโดยในระยะแรก มีเป้าหมาย 1 ตำบล 1 โรงเรียนต้นแบบ ทั่วประเทศ รวม 7,424 แห่ง ครอบคลุมระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา มุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาจิตสาธารณะเพื่อการบริการชุมชนและสังคม
สำหรับด้านอาชีวศึกษา รัฐบาลจะจัดการเรียนรู้ที่ได้ปฏิบัติจริง หรือการศึกษาแบบทวิภาคีอย่างต่อเนื่อง โดยให้สถานประกอบการเข้ามาร่วมวางแผนผลิตกำลังคน และจัดการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ ทำให้ผู้เรียนมีทักษะฝีมือที่สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ และทำงานได้จริงเมื่อจบการศึกษา
"ท่านนายกฯ ปรารภว่าในระดับอุดมศึกษา ยังพบปัญหาคุณลักษณะของบัณฑิตที่จบออกมา โดยผลจากการศึกษาวิจัยเรื่อง ช่องว่างทักษะที่สำคัญในโลกการทำงานของศศินทร์ ร่วมกับ จ๊อบไทยดอทคอม และแคเรียร์วีซ่า ระบุว่า นิสิตนักศึกษา 86% ยังไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง และยังมี 7 ทักษะ ที่บัณฑิตจบใหม่ยังขาดอยู่ เช่น ขาดความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ การมองประโยชน์ส่วนรวม ความตรงต่อเวลา ความอดทน รวมถึงความสามารถในการสื่อสารที่เป็นระบบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ระดับอุดมศึกษาอาจให้ความสำคัญกับพัฒนาทักษะชีวิตเหล่านี้น้อยกว่าภาควิชาการจึงได้มอบหมายให้ ศธ. ไปพิจารณานำหลักการ 4H และประชารัฐ ประยุกต์ใช้กับการจัดการเรียนรู้ในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจริงตามผลการวิจัยดังกล่าว กระตุ้นให้นิสิตนักศึกษามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง เป็นมืออาชีพ และสื่อสารเป็น คิดเองได้ โดยไม่ต้องรอคำสั่งแต่เพียงอย่างเดียว".
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา