กมธ.กีฬาฯ จี้ศธ. บรรจุครูพละเพิ่ม ด้าน “ดาว์พงษ์”ปัดขอเดินหน้าบรรจุสาขาขาดแคลนมากกว่าก่อน แนะคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ใจกว้าง เปิดทางคนสาขาอื่นมาเป็นครู ย้ำใช้เวลาเท่ากัน ครูทุกคนต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
วันนี้(17มี.ค.)พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารจัดการการกีฬา ซึ่งมีพล.ร.อ.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นประธาน ว่า คณะอนุกมธ.ขับเคลื่อนฯได้มาติดตามโครงการตามแผนปฏิรูปการกีฬาที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ร่วมดำเนินการใน9โครงการ อาทิ การรณรงค์ออกกำลังกายทุกวันในหน่วยงานของศธ. การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ของนักเรียน นักศึกษา การพัฒนาการจัดการพลศึกษาในโรงเรียน อย่างน้อยสองคาบต่อสัปดาห์ เป็นต้น ซึ่งเรื่องที่ตนเห็นด้วยอย่างมากคือ การดูแลสมรรถนะทางร่างกายของเด็ก ซึ่งเริ่มตั้งแต่เด็กเล็กขึ้นไป โดยให้ครูช่วยดูแล ประเมินสมรรถนะร่างกายเด็ก หากพบข้อบกพร่องพร้องก็แจ้งผู้ปกครองให้ทราบ พร้อมแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยดูแลในขณะอยู่ที่บ้าน โดยตนได้ให้โจทย์กับทางสถานศึกษาไปแล้วว่า ต้องดำเนินการให้เป็นรูปธรรม และเป็นระบบมากขึ้น ทั้งนี้ที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่ไม่มีการายงานผลและนำไปสู่การแก้ไขปัญหา หรือบางแห่งแก้ได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า คณะอนุกมธ.ขับเคลื่อนฯ ยังได้ขอให้ศธ. เร่งบรรจุครูพลศึกษาที่ขาดแคลนอยู่ให้เต็ม ซึ่งตนได้ชี้แจงไปว่าเรื่องการบรรจุครูนั้น ตนดำเนินการเร่งด่วนอยู่แล้ว แต่ขอเริ่มจากบรรจุครูในสาขาที่ขาดแคลนมากกว่าก่อน คือ ครูสายวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ส่วนครูพลศึกษาขอเป็นลำดับที่สี่ เพราะศธ.ก็มีครูที่ทำหน้าที่สอนแทนพอได้กล้อมแกล้มไปก่อน ส่วนข้อเสนอที่จะให้ผู้ที่จบในสาขาอื่น เช่น วิศกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี หลักสูตร4ปี มาสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูได้ด้วยนั้น ตนเห็นด้วย เพราะคนที่จบสายตรงมาจะรู้ลึกกว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปิดกว้าง ซึ่งผู้ที่จบจากคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ก็ต้องเข้าใจ ยิ่งในโลกยุคใหม่เราก็อยากได้คนที่เข้าใจและรู้เรื่องเฉพาะนั้นๆ มาสอนเด็กโดยเพิ่มเติมความรู้ด้านการเป็นครูให้เขาในภายหลังได้
“ครูที่จบมาจากคณะครุศาสตร์และคณะศึกษาศาสตร์ เอกวิทยาศาสตร์ก็เก่ง แต่แน่นอนว่า จะต้องเรียนวิทยาศาสตร์ในหน่วยกิตที่น้อยกว่า ผู้ที่จบมาจากคณะวิทยาศาสตร์โดยตรง อย่างไรก็ตามผู้ที่มาเป็นครูทุกคนต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งผมจะไปดูวิธีการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ ส่วนที่มีข้อท้วงติงว่า หากเปิดให้ผู้ที่เรียนในสาขาอื่น มาสอบบรรจุเป็นครูได้ จะทำให้นักเรียนเลือกเรียนในคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์น้อยลง เพราะใช้เวลาเรียนนานถึง5ปี และต่อให้เรียนจบอะไรมาก็เป็นครูได้นั้น ผมว่าไม่เป็นไร และถึงอย่างไร ผู้ที่ไม่ได้เรียนครูมาก็ต้องไปผ่านการอบรมวิชาชีพครูอยู่ดี ซึ่งก็ต้องใช้เวลาในการอบรมตามข้อกำหนดเหมือนกัน ขณะที่ผู้จบสายครูก็ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ ครูอยู่แล้ว”พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว.
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 17 มีนาคม 2559