ชี้เป็นช่องว่างให้เรียกแป๊ะเจี๊ยะ กำชับ สพฐ.คุมเข้มผู้บริหารโรงเรียน
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการแก้ปัญหาการเรียกเก็บเงินเพื่อแลกกับการเข้าเรียน หรือเงินแป๊ะเจี๊ยะ ว่า ตนได้เน้นย้ำกับทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้กำชับไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนทั่วประเทศ ว่า การรับนักเรียน ปีการศึกษา 2559 จะต้องไม่มีการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ แต่ก็ยอมรับเช่นกันว่ายังมีช่องว่าง คือ 7 เงื่อนไขพิเศษในการรับเด็ก คือ 1.เป็นนักเรียนที่ได้คะแนนสอบเท่ากันในลำดับสุดท้ายของการจัดลำดับ 2.เป็นนักเรียนที่มีข้อตกลงในการจัดตั้งโรงเรียน เช่น กรณีข้อตกลงโรงเรียนหอวัง กับการรถไฟแห่งประเทศไทย สามารถรับบุตรของ พนักงานการรถไฟฯได้ แต่ต้องไม่ใช่เป็นการจัดโควตา 3. เป็นนักเรียนที่เป็นผู้ยากไร้และด้อยโอกาส เช่นเด็กพิการ เด็กยากจน 4.เป็นนักเรียนที่เป็นบุตรผู้เสียสละเพื่อชาติหรือผู้ประสบภัยพิบัติที่ต้องได้รับการสงเคราะห์เป็นพิเศษ เช่น ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ หรือบุคคลใดที่ได้รับภัยพิบัติเพื่อชาติ 5.เป็นนักเรียนโควตาตามข้อตกลงของโรงเรียนคู่สหกิจหรือคู่พัฒนา หรือโรงเรียนเครือข่าย 6. เป็นนักเรียนที่เป็นบุตรข้าราชการครู หรือบุคลากรของโรงเรียน เช่น ลูกครู ลูกภารโรง ไม่ครอบคลุมถึงหลาน และ 7. เป็นนักเรียนที่เป็นบุตรของผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่การเพิ่งเข้ามาบริจาคเงิน ซึ่งทั้ง 7 เงื่อนไขพิเศษนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ต้องสามารถตอบได้ และต่อไปข้อมูลการรับนักเรียนและการ เก็บเงินค่าบำรุงการศึกษาทั้งหมด จะต้องนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบด้วย
รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า หลังจากนี้คงต้อง นำเงื่อนไขพิเศษ ทั้ง 7 ข้อ กลับมาทบทวนกันใหม่ ซึ่งอาจจะต้องมีการลดเงื่อนไขในบางข้อลง แต่ก็คงไม่ถึงกับต้องยกเลิกทั้งหมด แม้ว่าเรามีวัฒนธรรมของไทยแต่เราก็ต้องอย่าใช้วัฒนธรรมให้เกินขอบเขต อย่าทำให้คนรู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำ ดังนั้นจึงต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อลดช่องว่างของการรับเด็กเงื่อนไขพิเศษ แต่เรื่องการรับเงินแป๊ะเจี๊ยะนั้น เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ส่วนกรณีถ้ามีการแอบอ้างชื่อตนในการฝากเด็กเข้าเรียนนั้น หากใครพบก็ขอให้บอก ซึ่งตนเชื่อว่าการอ้างมีอยู่จริงในสังคมไทย แต่องคาพยพของ ศธ. ค่อนข้างใหญ่ ตนไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยทั้งหมด แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาก็ต้องมาดูเป็นกรณีว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนหากพบว่ามีการเรียกรับเงินเพื่อแลกที่นั่งเรียนเกิดขึ้นนั้น ก็ต้องถูกลงโทษทางวินัย.
ที่มา ไทยรัฐ วันที่ 5 มีนาคม 2559