“พินิจศักดิ์” เผยออมสินส่งร่างสัญญาข้อตกลงความร่วมมือ อนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่โดยใช้เงินช.พ.ค.รีไฟแนนซ์หนี้ครูถึงศธ.แล้ว พบมีข้อกำหนดเรื่องประกันชีวิต แจ้งขอตัดออก พร้อมขอลดดอกเบี้ยหนี้ครูทั้งหมดเหลือ 4% ย้ำให้การกู้ให้เป็นไปตามความสมัครใจของครูและทายาท
วันนี้(29 ก.พ.) นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการลดภาระหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยธนาคารออมสินจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้แก่ผู้กู้ที่เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้เงินกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ซึ่งทายาทจะได้รับเมื่อสมาชิกถึงแก่กรรม เป็นเงินบำเหน็จตกทอด นำมาขอสินเชื่อใหม่หรือรีไฟแนนซ์ เพื่อลดภาระหนี้หรือปิดบัญชีที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ย 4% ว่า ขณะนี้ธนาคารออมสิน ได้เปิดให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการยื่นความจำนงแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งตัวเลขผู้ขอเข้าร่วมโครงการมายังสกสค. โดยทางธนาคารออมสิน ได้จัดทำร่างข้อตกลง ที่จะใช้ในการลงนามร่วมกัน ซึ่งสกสค.ได้พิจารณาแล้วในเบื้องต้น ซึ่งตนได้ย้ำไปว่า ข้อตกลงต่าง ๆ ในสัญญาจะต้องแจ้งให้ครูและทายาทรับทราบข้อมูลทั้งหมดก่อนตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ โดยรายละเอียดหลัก ๆ คือ การกู้ครั้งนี้ ต้องเป็นไปตามความสมัครใจของครูและทายาท ผู้กู้จะไม่มีสิทธิ ได้รับเงินสด โดยเงินที่กู้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกหักเงินต้น และส่วนที่และส่วนที่เหลือ คิดเป็นดอกเบี้ย 4%ตลอดอายุสัญญากู้ 20 ปี รวมกับเงินค่าสมาชิก ช.พ.ค.ระยะ 20 ปี ซึ่ง ปัจจุบันครูต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกช.พ.ค.เดือนละประมาณ 600 บาท แต่หนี้ส่วนที่เหลือก็ยังคงต้องผ่อนชำระในอัตรา 6.5-6.7% เท่ากับปัจจุบัน
“ในการหารือรายละเอียดการจัดทำร่างข้อตกลง ยังไม่ลงตัว โดยสกสค.ขอให้ตัดข้อกำหนดในข้อตกลง ในเรื่องการทำประกันชีวิต กรณีที่ผู้กู้เสียชีวิตก่อนครบอายุสัญญาเงินกู้ ที่ระบุว่าโครงการช.พ.ค.จะไม่ต้องรับผิดชอบวงเงินกู้ดังกล่าว ซึ่งผมไม่เห็นด้วย เพราะสัญญานี้ผู้กู้จะต้องเสียเงินเป็น 2 ส่วนอยู่แล้ว หากมีการทำประกันอีก ก็เท่ากับว่า จะต้องเสียเงินเพิ่มถึง 3 ส่วน ดังนั้นจึงขอให้ธนาคารออมสินตัดตรงส่วนนี้ออกไป ขณะเดียวกัน ยังเสนอด้วยวาจา โดยอยากให้ทางผู้แทนธนาคารออมสินเสนอให้บอร์ดธนาคารออมสิน พิจารณา ลดดอกเบี้ยเงินต้นส่วนที่เหลือหลังจากเข้าร่วมโครงการฯ ให้เหลือ4% ในอัตราเดียวกันทั้งหมด เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้สินครูอย่างแท้จริง เพราะอย่างน้อย จำนวนงวดที่จะส่งต่อก็จะลดลงตามไปด้วย โดยข้อเสนอนี้เป็นการพูดคุยกันภายใน ผมก็ไม่แน่ใจว่าทางออมสินจะนำเรื่องดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดหรือไม่ ” นายพินิจศักดิ์กล่าว
นายพินิจศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ตนได้นัดทางธนาคารออมสิน มาหารือรายละเอียดในร่างข้อตกลงดังกล่าว อีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยจะเร่งดำเนินการให้เรียบร้อย ก่อนเสนอให้รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดศธ. และพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศธ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนลงนามในสัญญาดำเนินโครงการฯ ระหว่างสกสค. และธนาคารออมสิน ต่อไป ขณะที่ทางสกสค.เองก่อนการลงนามในข้อตกลงร่วมโครงการฯ ก็จะต้องทำการประชาสัมพันธ์ รายละเอียดในสัญญาการกู้ให้ครูรับทราบก่อนตัดสินใจปล่อยกู้ด้วย เพราะหากตกลงทำสัญญาโดยที่ผู้กู้และทายาทรู้ข้อมูลทั้งหมด ก็จะไม่เกิดการต่อว่าภายหลัง
ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559