สสค.เผยไทยติดอันดับ 1 ใน 16 ประเทศที่สอบตกการวัดผลระดับนานาชาติกว่าครึ่งประเทศ พบสาเหตุที่ทำให้เด็กมีผลคะแนนต่ำมาจากครอบครัว-โรงเรียน-ระบบการศึกษา หากไม่แก้คุณภาพเด็กสอบตกทั้งระบบ จะส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจถึง 16%
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายเศรษฐศาสตร์การศึกษา สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) เปิดเผยว่า จากการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ หรือ PISA (Programme for International Student Assessment) ที่ผ่านมาพบว่า เด็กไทยมากกว่าครึ่งประเทศสอบตกวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการอ่าน โดยไทยเป็น 1 ใน 16 ประเทศที่เยาวชนอายุ 15 ปี สอบตก PISA มากกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างนักเรียนไทยที่เข้าสอบ
สาเหตุที่ทำให้เด็กมีผลการเรียนต่ำไม่ได้มาจากตัวเด็กเพียงอย่างเดียว องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ OECD (Organisation for Economic Co-operation and Development) ผู้ทดสอบ PISA ได้วิจัยถึงปัจจัยที่ทำให้เด็กมีผลการเรียนต่ำ เพื่อนำไปสู่การลดช่องว่างของคุณภาพทางการศึกษา โดยศึกษาข้อมูลเชิงลึกของเยาวชนในกลุ่มประเทศที่มีผลคะแนนสอบตกมากกว่าครึ่งประเทศอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 10 ปี อันรวมถึงประเทศไทย ผลวิจัยเพิ่งเผยแพร่เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าปัจจัยที่ทำให้เด็กมีผลการเรียนต่ำมาจาก 3 ส่วนสำคัญคือ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเด็ก และครอบครัว ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน และปัจจัยที่เกี่ยวกับระบบการศึกษา
ดร.ไกรยสกล่าวว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเด็ก และครอบครัวประกอบด้วยความยากจน การขาดโอกาสทางการศึกษาก่อนวัยเรียน หรือเข้าเรียนล่าช้า ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดเรียน และมีแนวโน้มหลุดจากระบบการศึกษา รวมถึงการอบรมเลี้ยงดูที่ส่งผลต่อทัศนคติต่อการศึกษา ส่วนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน ประกอบด้วย สัดส่วนเด็กด้อยโอกาสในโรงเรียนซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพในการพัฒนาเด็กด้อยโอกาสเป็นรายบุคคล และมีสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ในโรงเรียน ครอบคลุมถึงปัญหากระบวนการสอนในชั้นเรียน เช่น ครูไม่อยู่ในห้องเรียน ครูไม่ครบชั้นหรือขาดประสบการณ์ และการขาดแคลนทรัพยากรและบุคลากรที่เพียงพอ ขณะที่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษาจะเป็นเรื่องการจัดสรรทรัพยากรด้านการศึกษาที่ไม่เป็นธรรม เป็นต้น
"การแก้ปัญหาการศึกษาของไทยไม่ควรแก้เฉพาะในโรงเรียน แต่ต้องทำงานร่วมกันระหว่างครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ และปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนให้สอดคล้องต่อความต้องการที่หลากหลายของเด็กที่มีปัญหา รวมถึงพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยอย่างมีคุณภาพ หากไม่แก้ปัญหาพัฒนาการเรียนรู้ที่ล่าช้าของเด็กอายุ 15 อย่างเป็นระบบ OECD ได้ประเมินไว้ว่าจะเกิดมูลค่าความเสียหายจากกำลังแรงงานที่ขาดคุณภาพ ซึ่งส่งผลเสียต่ออัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะหายไปถึง 16%"
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559